เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 29 ม.ค.2562 ที่ศูนย์ประชุมเอนกประสงค์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น หรือ มข. สถานที่ที่ มข.ใช้ในการจัดงานพระราชทานเพลิงศพครูใหญ่และครูใหญ่พระเทพวิทยาคม เป็นกรณีพิเศษ ประจำปีการศึกษา 2561 พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พล.ต.มิตรอนันต์ จันทร์โสภา เป็นผู้แทนพระองค์นำดอกไม้จันทน์ประทาน วางหน้าสรีรสังขารครูใหญ่หลวงพ่อคูณ ก่อนที่นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น เป็นประธานในการประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพครูใหญ่ และครูใหญ่หลวงพ่อคูณ เป็นกรณีพิเศษ ประจำปี 2561 โดยมีพุทธศาสนิกชน คณะศิษยานุศิษย์ รวมไปถึงผู้ให้การเคารพเลื่อมใสศรัทธาในครูใหญ่หลวงพ่อคูณ และคนในครอบครัวครูใหญ่ทั้ง 647 ร่าง เข้าร่วมในพิธีดังกล่าวจนล้นห้องประชุม
ทั้งนี้ในขั้นตอนของการพระราชทานเพลิงศพ เริ่มจาก ประธานนักศึกษาอ่านคำไว้อาลัยครูใหญ่ จากนั้น รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มข. อ่านหมายรับสั่ง, รศ.ดร.กิตติชัย ไตรรัตนศิริชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ก่อนที่ นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น จะทำการทอดผ้าบังสุกุล และประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพ ตามลำดับขั้นตอนตามที่ มข.กำหนด
โดยหลังจากการประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพแล้วเสร็จ คณะทำงานได้กำหนดลำดับขั้นตอนของการเคลื่อนสรีรสังขารครูใหญ่หลวงพ่อคูณ จากศูนย์ประชุมฯไปยังฌาปนสถาน โดยกำลังทหาร จาก มทบ.23 ทำการยกโลงไม้จันทร์หอมที่บรรจุสรีรสังขารของครูใหญ่หลวงพ่อคูณ ไปทำการขึ้นรถที่จัดเตรียมไว้ โดยทำการยกโลงไม้จันทร์หอม ลงจากเวทีกลางผ่านหน้าร่างครูใหญ่ทั้งหมด ก่อนออกประตูทางทางทิศเหนือ โดยมี ขบวนอัฐบริขาร ตาลปัตรพัดยศ และภาพถ่ายของครูใหญ่หลวงพ่อคูณนำหน้าขบวน ตามด้วย ขบวนพระเถรานุเถระ นำโดยพระพรหมมังคลาจารย์ (ธงชัย ธัมมฺธโช) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม ในฐานะประธานฝ่ายสงฆ์ และขบวนของฝ่ายฆราวาส นำโดยนายสมศักดิ์ จังตะกุล ผวจ.ขอนแก่น,รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มข,พล.ต.สมชาย ครภาฉาย ผบ.มทบ.23 ร่วมขบวนด้วย โดยระหว่างสองข้างทาง ตั้งแต่ลงจากเวทีมาจนถึงรถที่จัดเตรียมไว้นั้นมีสาธชุนจำนวนมากต่างพากันนั่งลงกับพื้นเพื่อก้มกราบครูใหญ่หลงพ่อคูณและเปล่งเสียงสาธุตลอดเวลา จนกระทั่งโลงไม้จันทร์หอมที่บรรจุสรีรสังขารของหลวงพ่อคูณเคลื่อนมาถึงรถเทพพนม หมายเลขทะเบียน 4น-1777 กรุงเทพฯ เจ้าพนังกานพิธีได้เลื่อนฐานรองโลงจากตัวรถมารอบรับโลงไม้จันทร์หอมครูใหญ่หลวงพ่อคูณ ก่อนที่กำลังสารวัตรทหาร จาก มทบ.23 และลูกศิษย์ลูกหา ได้ช่วยกันยกโลงวางไว้บนรถที่มีการประดับตกแต่งด้วยบุษบกอย่าสวยงาม โดยใช้เวลาในการเคลื่อนสรีรสังขารจากเวทีมายังรถประมาณ 15 นาที
จากนั้นได้เข้าสู่ขั้นตอนของการจัดรูปขบวน เริ่มจากรถนำขบวนของตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น 1 คัน รถนำขบวนของตำรวจทางหลวง 2 คัน ตามด้วยรถขนเครื่องอัฐบริขาร ตาลปัตรพัดยศ และเครื่องไทยธรรม ต่อด้วยรถบรรจุสรีระสังขาร,รถพระภิกษุสงฆ์และรถผู้บริหารมหาวิทยาลัยขอนแก่น
โดยเมื่อขบวนพร้อม เจ้าพนักงานประจำรถบรรจุสรีรสังขารหลวงพ่อคูณ ได้บีบแตร 3 ครั้ง เพื่อส่งสัญญาณการเคลื่อนขบวน ขณะที่ รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์,นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น และ พล.ต.สมชาย ครรภาฉาย ผบ.มทบ 23 ที่นั่งไปกับรถบรรจุสรีรสังขารของหลวงพ่อคูณ ทำการโปรยทานด้วยดอกคูณบุญ เพื่อเป็นการบอกกล่าวและเปิดทางให้กับครูใหญ่หลวงพ่อคูณตามความเชื่อ โดยในช่วงของการโปรยทานนั้นสาธุชนที่มาร่วมส่งดวงวิญญาณครูใฆญ่หลวงพ่อคูณ ได้พยายามที่จะเข้ามาแย่งกันเก็บเหรียญคูณบุญ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องกันพื้นที่เพื่อให้ขบวนรถเคลื่อนสรีรสังขารนั้นวามารถเดินทางต่อไปได้
ทั้งนี้ในช่วงของการเคลื่อนสรีรัสงขารครูใหญ่หลวงพ่อคูณ จากศูนย์ประชุมฯไปยังฌาปนสถานฯ ระยะทาง 16 กม. นั้น ตลอดทั้ง 2 ข้างทางต่างมีสาธุชนมารอกราบและร่วมส่ดวงวิญญาณครูใหญ่หลวงพ่อคูณเต็ม 2 ฝากฟั่งถนน บางคนถึงกับจอดรถและลงมานั่งก้มลงกราบเพื่อความเป็นสิริมงคล หลายคนได้วิ่งเข้ามาแย่งกันเก็บเหรียญคูณบุญ ที่ มข.ได้เตรียมไว้โปรยทานตลอดระยะทาง 16 กม. รวมกว่า 30,000 เหรียญ ขณะที่บางคนได้โดยนกระเป๋าเงิน ,ผ้าห่ม,ผ้าเช็ดหน้า,กระเป๋าเดินทาง,หมวกกันน็อค หรือแม้กระทั่งเสื้อแจ็กเกตที่ตนเองนั้นสวมใส่เข้าไปใต้ท้องรถเคลื่อนสรีรสังขารครูใหญ่หลวงพ่อคูณเพื่อความเป็นสิริมงคลตามความเชื่อ โดยเมื่อขบวนรถผ่านเจ้าของต่างได้พากันไปเก็บกลับคืนพร้อมยกมือสาธุท่วมหัวเพื่อความเป็นมงคลคให้กับตนเองและคอบครัวด้วย
อย่างไรก็ตามขบวนเคลื่อนสรีรสังขารหลวงพ่อคูณนั้นใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 1 ชม. โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องทำการปิดถนนตลอดทั้งช่วงของการเคลื่อนย้ายสรีรสังขารเพื่อความปอดภัย เนื่องจากสาธุชนจำนวนมากต่างพากันวิ่งมาเก็บเหรียญคูณบุญ รวมทั้งพยายามพากันมาจับรถคันที่บรรจุโลงสรีรสังขารและก้มกราบ 3 ครั้ง อยู่ตลอดเวลา ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องจัดกำลังสายตรวจรถจักรยานยนต์ในการแจ้งเตือนประชาชนทั้ง 2 ข้างทางตลอดทั้งช่วงของการเคลื่อนย้ายสรีรสังขารอีกด้วย
+ อ่านเพิ่มเติม