วันที่ 6 ม.ค. 62 นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือ ปภ. ในฐานะผู้อำนวยการกลางกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง สรุปภาพรวมอิทธิพลจากพายุโซนร้อนปาบึก ตั้งแต่วันที่ 3-5 ม.ค. 62 ส่งผลกระทบในพื้นที่ 18 จังหวัด รวม 90 อำเภอ 407 ตำบล
ประชาชนได้รับผลกระทบ 212,784 ครัวเรือน 696,189 คน เสียชีวิต 3 ราย สูญหาย 1 ราย ปัจจุบันสถานการณ์เริ่มคลี่คลายแล้ว ยกเว้นพื้นที่ลุ่มต่ำบางจุดที่ยังมีน้ำท่วมขัง
โดยที่ จ.นครศรีธรรมราช ขณะนี้มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 4 อำเภอ ได้แก่ อ.พิปูน อ.ช้างกลาง อ.ฉวาง และ อ.ชะอวด โดยประชาชนยังอยู่อาศัยในศูนย์อพยพ 8 จุด รวม 1,119 คน
เช่นเดียวกับ จ.ชุมพร เกิดภาวะน้ำทะเลหนุนสูงในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อ.ละแม อ.หลังสวน อ.สวี อ.ทุ่งตะโก อ.เมืองชุมพร และอ.ปะทิว รวม 9 ตำบล 25 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 2,121 คน
ส่วน จ.สุราษฎร์ธานี มีน้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 11 อำเภอ ได้แก่ อ.ไชยา อ.ท่าชนะ อ.ดอนสัก อ.พะงัน อ.บ้านาเดิม อ.พุนพิน อ.เกาะสมุย อ.เมืองสุราษฎร์ธานี อ.กาญจนดิษฐ์ อ.นาสาร และ อ.พระแสง รวม 48 ตำบล 260 หมู่บ้าน 25 ชุมชน ประชาชนได้รับผลกระทบ 3,791 ครัวเรือน 11,013 คน บ้านเรือนเสียหาย 19 หลัง
ขณะที่ จ.สงขลา เกิดวาตภัยและคลื่นซัดชายฝั่งในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อ.สิงหนคร อ.ระโนด อ.สทิงพระ และอ.จะนะ รวม 41 ตำบล 251 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 8,630 ครัวเรือน 71,250 คน บ้านเรือนเสียหายบางส่วน 2,129 หลัง ถนนเสียหาย 5 สาย
ทั้งนี้ ปภ. ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดเจ้าหน้าที่ พร้อมระดมเครื่องสูบน้ำ รถบรรทุกเครื่องส่งสูบน้ำระยะไกลเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขัง อีกทั้งซ่อมแซมสาธารณูปโภค โดยเฉพาะระบบไฟฟ้าให้สามารถใช้งานได้ตามปกติโดยเร็ว รวมถึงดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของผู้ประภัย ทั้ง อาหาร น้ำดื่ม และถุงยังชีพ เพื่อบรรเทา
ความเดือดร้อนในเบื้องต้น สำหรับจังหวัดที่สถานการณ์ภัยเริ่มคลี่คลายแล้ว ให้สำรวจความเสียหายครอบคลุมทุกด้าน เพื่อให้การช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ต่อไป
+ อ่านเพิ่มเติม