วันที่ 28 พ.ย. 2561 ร.ต.อ.ศักดิ์ชาย กิตติอุดมพันธ์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ นำตัวผู้ต้องหาข่มขืน ด.ญ.เอ อายุ 13 ปี ซึ่งเป็นเด็กออทิสติก มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หลัง ด.ญ.เอ ถูกนายติ๊ก อายุ 37 ปี เพื่อนบ้าน และนายน็อต อายุ 29 ปี ลูกพี่ลูกน้องกระทำชำเรา เมื่อกลางเดือน ต.ค.
โดยการทำแผนประกอบคำรับสารภาพวันนี้ ได้นำตัวนายติ๊กมาทำแผนฯ เพียงคนเดียว ส่วนนายน็อตได้ให้การปฏิเสธว่าไม่ได้กระทำ จึงไม่นำไปทำแผน แต่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาเช่นเดียวกัน เพราะคำให้การของ ด.ญ.เอ ระบุชัดเจน
จากการสอบถาม พี่สาว ด.ญ.เอ เล่าว่า ตนไปมีครอบครัวที่ อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ ครอบครัวเด็กอยู่ด้วยกัน 5 คน มียายน้องเอ, พ่อน้องเอ, น้องเอ, พี่ชายน้องเอ และนายน็อต ผู้ต้องหาซึ่งมีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องกันและเพิ่งพ้นโทษคดียาเสพติดมาเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา
แต่ต่อมาครอบครัวจำเป็นต้องย้ายออกจากบ้านหลังนี้ ไปอยู่กับญาติในหมู่บ้านเดียวกัน เพราะทนพฤติกรรมของนายน็อตไม่ไหว เพราะชอบโวยวาย ขอเงินถ้าไม่ได้ก็ดุด่า ตนทราบข่าวจึงมาเยี่ยมบ้านเมื่อวันที่ 27 พ.ย. ที่ผ่านมา
เมื่อเจอน้องเอ น้องบอกว่า เวียนหัว ไม่ค่อยสบายตนเอะใจ จึงสอบถาม น้องเอจึงยอมเล่าให้ฟัง โดยน้องเอได้เล่าให้ฟังว่า วันเกิดเหตุเมื่อประมาณ กลางเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา หลังจากย้ายบ้านออกไปแล้ว น้องเอลืมรองเท้าที่บ้านเก่า จึงปั่นจักรยานไปเอา เมื่อเข้าบ้านพบนายน็อตอยู่ในบ้าน และได้ข่มขืนน้องเอ ไม่กี่วันต่อมา น้องสาวขี่จักรยานเล่นในหมู่บ้าน ได้มีนายติ๊ก คนในหมู่บ้าน บอกให้จอดจักรยานแล้วพาไปข่มขืน ภายในบ้านของนายติ๊ก ทั้งนี้เมื่อไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติ ผลปรากฏว่าอวัยวะเพศฉีกขาด
ขณะที่พ่อของ ด.ญ.เอ อายุ 58 ปี เผยว่า ตนและครอบครัวโมโหมาก ตนทำงานหาเลี้ยงครอบครัวทั้งบ้าน หาข้าวหาน้ำให้กิน โตมาด้วยกัน ทำไมมาทำกับน้องเอกันแบบนี้ แล้วยังไม่รับผิด พร้อมขู่ด้วยว่า ถ้าโดนจับออกมาจะฆ่าทั้งครอบครัว ตอนนี้กลัวกันมาก ขอให้กฎหมายจัดการกับคนผิดอย่างเต็มที่
+ อ่านเพิ่มเติม