'ชูวิทย์' โพสต์เฟซบุ๊คซัด 'กำนันสุเทพ' ล้มทักษิณหรือล้มประเทศไทย? หวังชัยชนะบนซากปรักหักพัง
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ค ชูวิทย์ I'm No.5 ว่า
ล้มทักษิณ หรือ ล้มประเทศไทย ?
ตั้งแต่เปิดเกมชุมนุมตั้งม็อบข้างถนน ด้วยความผิดพลาดสะดุดขาตัวเอง "พรบ.นิรโทษกรรม" ของรัฐบาล แล้วถูกฝ่ายค้านมืออาชีพอย่างประชาธิปัตย์ยำ กระทืบซ้ำ ลากยาวเลี้ยวเข้า "ล้มระบอบทักษิณ" ต่อ
กำนันสุเทพออกหน้ายอมลาออก ตั้งเวทีแล้วเวทีเล่า ปิดถนน ขวางเลือกตั้ง เดินไล่ล่านายกฯ แช่แข็งประเทศ ไม่ให้ข้าราชการทำงาน ฮีโร่ของมวลมหาประชาชนทำทุกอย่างเพื่อล้มระบอบทักษิณให้ได้ นายกฯยิ่งลักษณ์และเครือข่าย ต้องจบสิ้นอำนาจวาสนาไปจากประเทศไทย
แต่จนถึงบัดนี้สี่เดือนแล้ว ประเทศไทยสะบักสะบอม เหมือนคนไข้ในห้องไอซียู รัฐบาลเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต นอนพาดขา สวมอ๊อกซิเจน เข้าขั้นโคม่าแต่ไม่ตายเสียที หัวใจยังเต้นแต่ขยับไปไหนไม่ได้ สารพัดหมอเห็นแล้วส่ายหน้า วินิจฉัยซ้ำแล้วซ้ำเล่า เข้าเครื่องเอ็กซเรย์ บอกว่าไปไม่รอดถึงกลางเดือนมีนาเป็นอย่างช้า
กำนันสุเทพเฝ้ารอว่าจะถึงวันที่ "มะม่วงสุกคาต้น" แล้วหล่นลงมาให้ลิ้มชิมรสความหวาน หลังจากเหนื่อยยากแสนเข็ญมากเสียกว่า 35 ปีในสภา หรือที่เคยจับมือประสานจัดตั้งรัฐบาล บริหารงานรัฐหลายเท่า เพราะล้มทักษิณไม่ใช่เรื่องหมูๆ
เมื่อหลังชนฝา สู้มาขนาดนี้แล้ว คนอย่างกำนันสุเทพผู้ทรนงหวังพึ่งเพียงคนเดียวคือ "ทหาร" แต่นัดแล้วก็ไม่ออก อ้อนวอนเท่าไหร่ก็ไม่ยอมมาเสียที ต้องหันหน้าไปพึ่งเป้าหมายสุดท้ายคือ "องค์กรอิสระ" ถึงกับยอมทุบหม้อข้าวหม้อแกงเก็บของย้ายที่มั่นเข้าสวนลุมฯ ทุนรอนร่อยหรอ เสบียงกรังแทบไม่เหลือ ปิดเกมไม่ลง น้ำบ่อเดียวที่จะโค่นรัฐบาลได้คือ องค์กรอิสระ เลิกหวังว่าทหารจะออกมาช่วย ที่มาก็มีแต่ทหารเรือ ได้แค่คุ้มครองปกป้อง แต่จะให้รุกถึงขั้นปฏิวัติต้องทหารบกเท่านั้น
เมื่อประจักษ์ต่อสายตาว่าหมดทาง แสงสว่างอยู่ที่ปลายอุโมงค์ อึดสุดท้ายต้องกลั้นใจไปให้ถึง แต่เมื่อไปถึงคงพบกับซากปรักหักพังของประเทศไทย ความแตกแยกแผ่กระจายไปทั่วผืนแผ่นดิน แม้ว่ากำนันสุเทพจะชนะ ล้มระบอบทักษิณได้ ยิ่งลักษณ์ต้องไป รัฐบาลล้มระเนระนาดอย่างที่ต้องการ การเลือกตั้งครั้งก่อนเป็นโมฆะ มีการจัดเลือกตั้งขึ้นใหม่ พรรคประชาธิปัตย์เข้ามาแข่งขันตามประเพณี สารพัดสภาจะถูกจัดขึ้นตามกระแสเรียกร้อง
กว่าจะถึงวันนั้น ฉากสุดท้ายของประเทศถูกทิ้งไว้ให้โดดเดี่ยวท่ามกลางความพังพินาศ เมื่อมองไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เขาต่างหัวเราะเยาะขบขันประเทศไทย ที่ไม่เหลืออะไรไว้ให้ลูกหลานเลย