สนามบินขอนแก่น วอนหยุดปล่อยโคมลอย พลุ และโคมควัน ตั้งแต่เวลา 17.30 น.เป็นต้นไป หวั่นกระทบการทำการบินในช่วงเทศกาลวันลอยกระทง เตือนทุกหน่วยงานเร่งขออนุญาตให้ถูกต้อง หากพบผิดแจ้งตำรวจจับกุมทันที
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 17 พ.ย.2561 ที่ท่าอากาศยาน จ.ขอนแก่น ว่าที่ ร.ต.อัธยา ลาภมาก ผู้อำนวยการท่าอากาศยาน จ.ขอนแก่น ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้ท่าอากาศยานฯ ได้ออกประกาศแจ้งเตือน ขอความร่วมมือและจัดส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เพื่อประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจในระเบียบและข้อบังคับ ว่าด้วยความปลอดภัยในอากาศยานและโดยรอบท่าอากาศยาน เกี่ยวกับการปล่อยโคมลอย โคมควัน รวมไปถึงการจุดพลุไฟต่างๆ ในช่วงเทศกาลวันลอยกระทงที่กำลังจะมาถึง เนื่องจากขณะนี้หลายพื้นที่ได้จัดเตรียมการจัดกิจกรรมวันลอยกระทง โดยเฉพาะที่บริเวณบึงสีฐาน ภายในมหาวิทยาลัยขอนแก่น และบึงหนองโคตร ในพื้นที่ ต.บ้านเป็ด อ.เมืองขอนแก่น ซึ่งเป็น 2 จุดหลักของการจัดงานเทศกาลลอยกระทงที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวชาวไทยชาวต่างชาติที่เดินทางมาร่วมกิจกรรมในแต่ละปีเป็นจำนวนมาก
ขณะนี้ทางสนามบินได้ประสานการทำงานร่วมกันกับทั้ง 26 อำเภอ รวมทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น, ชุมชนและคุ้มวัดต่างๆ ที่ตั้งอยู่ในรัศมีและพิสัยการบิน โดยรอบสนามบิน ระยะทาง 14 กม.ซึ่งตามแผนที่ตารางการบินแล้วนั้นพบว่าครอบคลุมพื้นที่ อ.น้ำพอง,บ้านฝาง และ อ.เมืองขอนแก่น ที่ต้องห้าม จุดพลุ ปล่อยโคมลอยและโคมควัน โดยเด็ดขาดตั้งแต่เวลา 17.30 – 23.00 น.เนื่องจากจะส่งผลกระทบต่อพิสัยในการทำการบินและการสัญจรทางอากาศ เพราะในช่วงระยะเวลาดังกล่าวมีสายการบินพาณิชย์ทำการบิน ทั้งไปและกลับ มากกว่า 10 เที่ยวบิน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการทำการบินของเที่ยวบินต่างๆ ในภาพรวม
อย่างไรก็ดี ขณะนี้เจ้าหน้าที่จากสนามบินขอนแก่น ได้เร่งลงพื้นที่ทำความเข้าใจในกฎระเบียบและข้อบังคับดังกล่าว เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง เพราะการปล่อยโคมควันและโคมลอยนั้นเป็นขนบธรรมเนียมประเพณีของคนอีสานมาอย่างยาวนานที่มักจะทำการปล่อยในช่วงเทศกาลวันออกพรรษาต่อเนื่องถึงเทศกาลวันลอยกระทง ดังนั้นในระยะนี้หากพื้นที่ใดที่กำหนดจัดกิจกรรมลอยกระทงและต้องการจุดพลุ โคมลอย หรือโคมควัน ขอให้ดำเนินการขออนุญาตอย่างถูกต้องจากนายอำเภอของแต่ละอำเภอ เพื่อที่จะได้ทราบว่าสามารถดำเนินกิจกรรมดังกล่าวได้หรือไม่ เพราะหากกระทำการโดยไม่ถูกต้องทางจังหวัดจะดำเนินการจับกุมดำเนินคดีทันที
ว่าที่ ร.ต.อัธยา กล่าวต่ออีกว่า สนามบินฯ ได้กำหนดแผนการดำเนินงานว่าด้วยมาตรฐานความปลอดภัยขั้นสูงสุดต่ออากาศยาน ทั้งในช่วงของการจราจรทางอากาศ การลดเพดานบินเพื่อลงหรือขึ้นจากท่าอากาศยาน และในช่วงของการบินเข้ามาในเส้นทางรันเวย์ และลานจอดเครื่องบิน ทั้งหมดจะถูกจำกัดพื้นที่ไม่ให้โคมลอย หรือโคมควันเข้ามา ในพื้นที่หรือเข้ามาในรัศมีการทำการของอากาศยานในภาพรวมทั้งหมด โดยเฉพาะรัศมี 14 กม.เพื่อความปลอดภัยสูงสุดเพราะ ปัจจุบันจากการตรวจสอบพบว่าโคมลอย และโคมควันมีการดัดแปลงสภาพให้สามารถลอยได้สูงขึ้น และบินไปตามทิศทางลม โดยไม่สามารถบังคับหรือกำหนดระยะเวลาที่ตกได้ ซึ่งเสี่ยงต่อการพุ่งชน หรือลอยติดกับเครื่องบิน ในช่วงของการทำการขึ้นและลง ของเครื่องบินได้อย่างมาก และถ้าหากโคมลอยและโคมควันลอยไปติดในช่องเครื่องยนต์ที่ติดตั้งอยู่บริเวณปีกของเครื่องบินก็จะเกิดการดูดโคมลอยเข้าไปพร้อมอากาศก็จะส่งผลต่อการเกิดความเสียหายอย่างมากเลยทีเดียว
ดังนั้นตลอดทั้งสัปดาห์นี้ยังคงเพิ่มความเข้มงวด ตรวจสอบการลักลอบปล่อยโคมลอย และโคมชนิดต่างๆ อย่างเข้มงวด ซึ่งหากตรวจพบจะมีการประสานงานร่วมตำรวจท้องที่ดำเนินการจับกุม ซึ่งมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 232(1) โทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 7 ปี หรือปรับตั้งแต่ 1,000-14,000 บาท และความผิดว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ มาตรา6 (3) โทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่ 5-20 ปี ซึ่งถือเป็นบทลงโทษที่ทุกสนามบินของไทยจะต้องปฏิบัติตาม
+ อ่านเพิ่มเติม