ข่าวเย็นประเด็นร้อน - พบศพภรรยาทหาร ดับปริศนาอยู่ในบ่อขยะของแฟลตทหารย่านบางซื่อ สามีเล่าหายตัวไปเมื่อวันลอยกระทง ตามหายันเช้าก็ไม่เจอ ด้านตำรวจเร่งสอบสวนสาเหตุการตาย มุ่งไป 3 ประเด็นหลัก หลังพบจีพีเอสโทรศัพท์ผู้ตาย ไปโผล่ย่านบางนา
เมื่อคืนนี้เวลาประมาณ 22.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางซื่อ ได้รับแจ้งเหตุว่ามีผู้เสียชีวิตจากการตกที่สูงภายในแฟลตสวัสดิการข้าราชการทหารแห่งหนึ่ง เขตพญาไท กทม. จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานกลาง พบที่เกิดเหตุมีรั้วรอบขอบชิด ทางเข้า-ออก มีเจ้าหน้าที่ทหารคอยตรวจอยู่ตลอดเวลา ไม่อนุญาตให้ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าพื้นที่เด็ดขาด ภายในบริเวณอาคาร ส.2 ทภ.1 สูง 4 ชั้น บนดาดฟ้ามีบ่อทิ้งขยะที่ไม่ได้เปิดให้ใช้งานนานแล้ว มีความกว้าง 3 เมตร ลึก 15 เมตร
มองลงไปด้านล่างสุดพบศพ นางสาวประกายแก้ว อายุ 36 ปี สภาพศพนอนคว่ำหน้า แขนขาหักผิดรูป ใส่เสื้อแขนยาวสีขาว กางเกงขายาวสีดำ สะพายกระเป๋าใบเล็กสีน้ำตาล ไม่ใส่รองเท้า เจ้าหน้าที่ไม่สามารถโรยตัวลงไปเก็บศพได้เพราะมีความเสี่ยงสูง ต้องใช้เครื่องเจาะคอนกรีตกับกำแพงข้าง ๆ บันไดให้ทะลุเพื่อนำร่างออกมา
จากการตรวจสอบเบื้องต้นตามร่างกายเริ่มเน่าเปื่อยไม่พบบาดแผล ภายในกระเป๋าสะพายข้างไม่มีโทรศัพท์มีเพียงถุงยางอนามัยที่ยังไม่ได้ใช้งานหลายชิ้น เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจนำร่างไปทำการชันสูตรพลิกศพหาสาเหตุการเสียชีวิตต่อไป
จากการสอบถาม นายณัฐวุฒิ ทองแทน ผู้เป็นสามี เล่าว่า ตนเองได้พาลูกวัย 2 ขวบ เข้านอน พอตื่นนอนมาตอนเช้า ก็พบว่าผู้เป็นภรรยาไม่อยู่แล้ว เข้าใจว่าไปนอนที่ร้าน แต่พอไปดูที่ร้านก็ไม่เจอ ด้วยนิสัยของภรรยา เวลาจะไปไหนมาไหนมักจะเอารถมอเตอร์ไซค์ หรือรถยนต์ไป เมื่อไปดูรถก็พบว่ายังอยู่ครบ พร้อมยืนยันว่าไม่ได้มีปัญหากับภรรยา แต่ตนแปลกใจและกระวนกระวายใจ จึงต้องออกไปตามหาภรรยา เพราะมันผิดวิสัยที่ดึกดื่นแล้วยังไม่ขึ้นบ้าน ต่อให้ไปไหนกับใครก็ต้องกลับบ้าน ก็เลยสงสัยคิดว่าอาจจะตกน้ำหรือเปล่า เพราะเป็นคืนวันลอยกระทง จึงได้ไปแจ้งความแล้วพอค้นหาอีกก็ไม่เจอ ตนก็เลยโพสต์ประกาศตามหาในโลกสื่อโซเชียล Facebook
ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตนั้นตนก็เชื่อว่าอาจจะมีหลายสาเหตุที่เกิดขึ้น ในส่วนของรายละเอียดต้องสอบถามทางผู้บังคับบัญชาของตน ด้านตำรวจบอกเพียงสั้น ๆ ว่า เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่สามารถให้ข้อมูลใด ๆ ได้ เนื่องจากสถานที่เกิดเหตุอยู่ในพื้นที่เขตพระราชฐาน
จากการตรวจสอบเบื้องต้น ห้องขยะดังกล่าวปกติจะล็อกไว้ตลอด แต่ช่วงนี้มีแรงงานต่างด้าวมาซ่อมหลังคาจึงไม่ได้ล็อกไว้ ตำรวจได้ตั้งประเด็นไว้ว่า อาจถูกชิงทรัพย์แล้วฆาตกรรมอำพรางศพ เนื่องจากเมื่อ 2 วันก่อน จีพีเอสมือถือผู้ตายไปสิ้นสุดถนนบางนา-ตราด มุ่งหน้า จังหวัดสมุทรปราการ ก่อนจะหายไป อีกประเด็นผู้ตายอาจไปเคลียร์เงินกับลูกหนี้ เพราะมีการให้ยืมเงินแล้วไม่ได้คืน จึงถูกฆาตกรรมอำพรางศพ ส่วนประเด็นที่ญาติผู้ตายให้ข้อมูลไว้ว่า เจ้าตัวป่วยเป็นมะเร็งไทรอยด์ระยะที่ 3 นั้น ยังไม่เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต แต่ตำรวจยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ล่าสุด ผู้สื่อข่าวเราลงพื้นที่ไปยัง สน.บางซื่อ เพื่อสอบถามความคืบหน้าในคดี แต่ยังไม่มีใครออกมาให้ข้อมูล
ล่าสุด พลตำรวจเอก ภูวดล อุ่นโพธิ ผกก.สน.บางซื่อ เปิดเผยความคืบหน้า ว่า ขณะนี้ชุดสืบสวนกำลังประชุมเครียดเพื่อติดตามความคืบหน้าของคดี หลังเมื่อคืนเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ ก่อนนำศพส่งสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ พร้อมได้สอบปากคำพยานแล้วนับสิบปาก รวมถึงกลุ่มเพื่อนสามีที่เป็นทหารที่ร่วมวงดื่มเหล้าในคืนวันเกิดเหตุด้วย
อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังสรุปสาเหตุการเสียชีวิตไม่ได้ว่ามาจากปัญหาใด ส่วนประเด็นที่ญาติผู้ตายให้ข้อมูลไว้ว่า เจ้าตัวป่วยเป็นมะเร็งไทรอยด์ระยะที่ 3 นั้น ยังไม่เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต แต่ตำรวจยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง
เมื่อสักครู่ ที่ผ่านมา นายเสรฎฐวัฒิ น้องชายผู้เสียชีวิต ได้เดินทางมาที่ สน.บางซื่อ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ว่า ปกติแล้วพี่สาวจะพักอาศัยอยู่ที่แฟลตตึกเดี่ยว ลักษณะเป็นห้องครอบครัว ภายใน แยกเป็นห้องพัก 2 ห้อง มีพี่สาว สามีและลูกชายวัย 2 ขวบ พักอยู่ห้องเดียวกัน ส่วนตนเองจะพักอีกห้องหนึ่ง โดยพี่สาวเปิดร้านขายของชำอยู่ที่ตึกนั้น ส่วนตึกที่พบศพพี่สาวอยู่คนละตึกเรียกว่าตึกคู่ ซึ่งในอดีตพี่สาวเคยพักอยู่ที่ตึกนี้ แต่ย้ายออกมาได้ประมาณ 2-3 ปีแล้ว ปัจจุบันปกติแล้วพี่สาวไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ และไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปตึกนั้นเลย อีกทั้งจุดที่พบศพพี่สาว ก็อยู่คนละฝั่งกับห้องที่พี่สาวเคยพักด้วยซ้ำ
โดยในคืนเกิดเหตุ สามีพี่สาวเล่าให้ฟังว่า พี่สาวนั่งดื่มสุรากับเพื่อนอยู่ที่ตึกเดี่ยว แล้วหลังจากนั้นพี่สาวก็แยกออกมา โดยให้สามีกลับห้องไปดูแลลูกก่อน จากนั้นพี่สาวก็หายตัวไป ตนมาทราบอีกทีก็ตอนรุ่งเช้า ก่อนจะพยายามช่วยกันตามหาและสามีก็ไปลงบันทึกประจำวัน ก่อนจะพบร่างของพี่สาวในเวลาต่อมา
อย่างไรก็ตาม ตนได้ข้อมูลจากตำรวจว่า พบภาพวงจรปิดเห็นพี่สาวของตนเดินไปที่ตึกนั้น ในลักษณะท่าทางปกติ และมีการหันมองออกมาเหมือนว่ามีคนจะเรียก ก่อนที่พี่สาวจะหันกลับไปและเดินขึ้นตึกที่เสียชีวิตเหมือนเดิม ก่อนจะหายตัวไปและพบเป็นศพในเวลาต่อมา อีกทั้งมีภาพวงจรปิดอีกมุม แสดงให้เห็นว่า พี่สาวออกจากห้องน้ำและหยิบโทรศัพท์ใส่ในกระเป๋าเสื้อ แต่ปรากฏว่าที่ศพของพี่สาวโทรศัพท์หายไป
ตนเชื่อว่าการเสียชีวิตของพี่สาวมีเงื่อนงำและยังติดใจในการเสียชีวิต ไม่เชื่อว่าเป็นการฆ่าตัวตาย แม้ว่าพี่สาวจะมีปัญหาด้านสุขภาพเป็นโรคมะเร็งไทรอยด์
ระยะที่ 3 แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นที่ทำให้พี่สาวต้องเครียดหรือกังวล เพราะที่ผ่านมาพี่สาวก็รักษาตัวอย่างดีมาโดยตลอด อีกทั้งเขารักลูกและสามีของเขาเป็นอย่างมาก ตนจึงไม่เชื่อว่าพี่สาวตัวเองจะคิดสั้นฆ่าตัวตายได้ เชื่อว่าพี่สาวตนเองน่าจะถูกฆาตกรรม แต่จะเป็นการฆ่าชิงทรัพย์หรือไม่ตนไม่ทราบ เพราะที่แฟลตไม่มีประวัติเรื่องเหตุอาชญากรรมมาก่อน
อีกทั้งปกติแล้ว ตนกับพี่สาวจะพูดคุยกันตลอด ไม่เคยไม่สามารถโทรหาหรือติดต่อได้ ซึ่งติดต่อครั้งสุดท้ายในวันที่ 27 พฤศจิกายน ตนได้ไลน์ทักหาพี่สาวตามปกติตอน 19.00 น. ก่อนพี่จะเสียชีวิตไม่กี่ชั่วโมง ทั้งนี้ ตนได้ส่งข้อความสุดท้ายในวันที่ 28 พฤศจิกายน ถามพี่สาวว่าอยู่ไหน แต่ไม่มีการตอบกลับ และวันที่ 29 พฤศจิกายน ตนสามารถโทรเข้าเครื่องโทรศัพท์ของพี่สาวตนเองได้ แต่ไม่มีใครรับสาย ก่อนที่หลังจากนั้นจะไม่สามารถติดต่อโทรศัพท์ของพี่สาวได้อีกเลย
ส่วนตัวสามีของพี่สาวซึ่งชื่อหนุ่ย ตนไม่ได้รู้สึกติดใจกับสามี เพราะหลังจากทราบข่าวว่าพี่สาวหายไปในช่วงเช้า สามีพี่สาวก็เป็นคนแรกที่ออกตามหาและไปแจ้งลงบันทึกประจำวันที่ สน.บางซื่อ อีกทั้งตอนที่ตั้งวงกินเหล้าในคืนวันลอยกระทง สามีพี่สาวก็ยืนยันว่าคืนนั้น พี่สาวไล่ให้เขากลับไปดูลูกที่ห้องก่อน โดยพี่สาวกับสามีคนนี้คบหากันมาได้ 5 ปี แล้ว มีลูกชายด้วยกัน 1 คนวัย 2 ขวบ ที่ผ่านมาก็มีทะเลาะกันเล็ก ๆ น้อย ๆ แล้วก็คืนดีกัน ไม่เคยถึงขั้นทำร้ายร่างกายหรือมีปัญหากันภายในครอบครัวจนเกิดภาวะเครียดทั้งสองฝ่าย
ส่วนประเด็นที่ตั้งข้อสงสัยว่า เป็นการฆาตกรรมเพื่อล้างหนี้หรือไม่ นายโจ้กล่าวว่า ที่ผ่านมามีคนมาหยิบยืมเงินพี่สาวของตนจริง แต่เป็นจำนวนแค่หลักพันไม่ได้มากมายและบางส่วนก็เป็นเพียงแค่การเซ็นของ ในร้านชำ อีกทั้งที่ผ่านมาพี่สาวก็ไม่ได้มีอริหรือมีปัญหาใด ๆ กับใคร โดยหลังจากนี้จะนำศพพี่สาว ไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดตะขบ อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35