ผู้ว่าฯ ปัตตานี เร่งวางแผนรับสถานการณ์น้ำท่วมหนัก หวังปีนี้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด
วันนี้ (6 พ.ย.61) ที่เทศบาลตำบลรูสะมิแล อ.เมืองปัตตานี นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชุมวางแผนในการเตรียมรับสถานการณ์น้ำท่วมและการวางมาตราการณ์แก้ปัญหาและการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบทั้ง 12 อำเภอ เนื่องจากในห้วงเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคมของทุกปี พื้นที่ จ.ปัตตานี ต้องประสบปัญหาน้ำท่วมหนัก เมื่อปี 2560 มีประชาชนได้รับผลกระทบกว่า 5 หมื่นครัวเรือนดังนั้นทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องจึงต้องเร่งรัดวางแผนวางมาตราการณ์ป้องกัน แก้ไข และช่วยเหลือให้ทันท่วงที โดยหวังว่าปีนี้จะมีผู้ได้รับยผลกระทบน้อยที่สุด
นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เปิดเผยว่า เดือนพฤศจิกายนนี้ถือว่าเป็นห้วงที่จะเกิดน้ำท่วมหนักดังนั้นต้องรีบหาทางป้องกันแก้ไขและเตรียมความพร้อมรับมือหากสถานการณ์น้ำท่วมรุนแรง โดยเฉพาะการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากทุกปีหลายอำเภอต้องประสบปัญหาน้ำท่วมและบางพื้นที่มีน้ำท่วมซ้ำซากเป็นเวลาหลายวันส่งผลให้ประชาชนต้องเดือดร้อน ไม่ว่าปัญหาที่อยู่อาศัย และต้องหยุดงานจนขาดรายได้ เพราะส่วนใหญ่พื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมประชาชนมีอาชีพทำสวนและรับจ้าง เราต้องช่วยเร่งรัดเตรียมการก่อนเกิดเหตุและช่วยบรรเทาเร็วที่สุด จึงต้องเตรียมเครื่องมือ อุปกรณ์รวมไปถึงเครื่องอุปโภคบริโภคให้พร้อมเสมอ เพราะในช่วงปี 2560 มีประชาชนได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมทั้ง 12 อำเภอกว่า 51,200 กว่าครัวเรือน และในปีนี้จะต้องมีผู้ได้รับผลกระทบให้น้อยที่สุด และให้ใช้ชีวิตอย่างปกติสุขให้มากที่สุด ที่สำคัญ สถานที่ราชการ ไม่ว่า โรงพยาบาล โรงเรียน ต้องสามารถซ่อมแซมทันทีเมื่อน้ำลด เราจึงต้องเตรียมการก่อนและหลังเกิดเหตุให้ดีที่สุด
ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี กล่าวอีกว่า พื้นที่ที่น่าห่วงที่สุดจาก 12 อำเภอ คือ 7 อำเภอที่อยู่ติดแนวชายฝั่ง ประกอบด้วย อ.เมือง อ.หนองจิก อ.ยะหริ่ง อ.ปะนาเระ อ.สายบุรี และ อ.ไม้แก่น ซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำ รวมไปถึง อ.ยะรัง ที่เป็นทางน้ำไหลจาก จ.ยะลา ฉะนั้นต้องไปดูจุดเสี่ยงภัยของตนเอง ขณะที่ อ.เมือง ก็ถือว่ามีหลายพื้นที่ที่ประสบภัยน้ำท่วมหนักและซ้ำซาก คือ ต.บาราเฮาะ อ.ปะกาฮารัง และ อ.รูสะมิแล และในเขตเทศบาลเมือง ซึ่งขณะนี้เรารู้จุดที่ต้องแก้ปัญหาแล้ว และทางชลประทานก็ได้รายงานแนวร่วมการป้องกันและแก้ไขเพื่อให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุด ซึ่งปัตตานีมีคลองอยู่ 5 สาย คือ คลองดี1 ดี 2 ดี 8 คลองตุยง และ แม่น้ำปัตตานี และหัวใจที่ระบายน้ำได้ดีที่สุดคือ คลองดี 8 ฉะนั้นเราต้องรีบจัดการคลองดี 8 เพื่อการระบายน้ำลงสู่ทะเลให้ดีที่สุด
+ อ่านเพิ่มเติม