ศาลเล็งใช้กำไลข้อเท้าอิเล็กทรอนิกส์คุมความประพฤติเด็กแว๊นซ์-เมาแล้วขับ ห้ามออกจากบ้าน 4ทุ่มถึงตี4 เป็นเวลา 7 วันแทนการบำเพ็ญประโยชน์ นำร่องที่ศาลพระนครเหนือ
นายสุรจิตร ศรีบุญมา ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลแขวงพระนครเหนือเปิดเผยว่า ศาลแขวงพระนครเหนือมีความพร้อมที่จะนำเครื่องมือควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (EM) หรือกำไลข้อเท้าอิเล็กทรอนิกส์ มาใช้กับผู้กระทำผิดเป็นศาลนำร่องแห่งแรก โดยเริ่มจากคดีเมาแล้วขับ กับคดีแข่งรถบนถนนสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต
จากเดิมศาลจะมีคำพิพากษาจำคุก แต่ให้รอลงอาญาไว้และให้คุมประพฤติด้วยการบำเพ็ญประโยชน์หรือบริการสังคม 24 ชม. ซึ่งเมื่อศึกษาพฤติกรรม อุปนิสัย สิ่งแวดล้อม ของผู้กระทำผิดเหล่านี้เห็นว่า ไม่ค่อยอยู่บ้านกับครอบครัวช่วงกลางคืนแต่ไปกินเที่ยวตามสถานบันเทิงจนเกิดคดี “เมาแล้วขับ”หรือไม่ก็ไปจับกลุ่มแข่งรถบนท้องถนนในยามวิกาล กระทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าเมื่อคำนึงถึงความสำคัญของสถาบันครอบครัวแล้วเห็นว่า ควรแก้ไขผู้กระทำผิดเหล่านี้ด้วยการจำกัดเวลาออกจากบ้าน ตั้งแต่ช่วง 22.00-04.00 น. โดยใช้กำไลข้อเท้าอิเล็กทรอนิกส์ เป็นเวลา 7 วัน
โดยอุปกรณ์ดังกล่าวมีลักษณะคล้ายกำไลข้อเท้ามีเครื่องรับส่งสัญญาณนาดเท่าเครื่องเพจเจอร์ส่งไปที่กรมคุมประพฤติ ถ้าจำเลยที่สวมอุปกรณ์นี้ฝ่าฝืนเงื่อนไข อาทิ ออกนอกบ้านในเวลาห้ามก็จะมีเสียงเตือนให้หยุดการกระทำ หรือถ้าจำเลยหรือมีผู้ใดทำลายอุปกรณ์ดังกล่าว ด้วยการตัดสายรัดข้อเท้า ก็ไม่สามารถนำมาประกอบได้ตามเดิมทำให้รู้ว่า มีการฝ่าฝืนคำสั่ง จำเลยคนนั้นจะ ต้องรับโทษตามคำพิพากษาของศาลที่รอลงอาญาไว้ โดยเบื้องต้นศาลแขวงพระนครเหนือได้นำอุปกรณ์มาใช้แล้ว 200 เครื่อง คาดว่าจะเริ่มใช้เร็วๆ นี้ จะเป็นผลดีต่อการควบคุมพฤติกรรมผู้กระทำผิดต่อไป
ศาลพระนครเหนือ
เด็กแว๊นซ์
ผู้พิพากษา
เมาแล้วขับ
คุมประพฤติ
บำเพ็ญประโยชน์
ยามวิกาล
กำไลข้อเท้าอิเล็กทรอนิกส์
เครื่องมือควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์