อ่างทอง-ชาวนา 3 ตำบล ร้องชลประทานเกรงไม่มีน้ำทำนากว่าพันไร่ได้รับความเดือดร้อน หลังผู้รับเหมาดาดคอนกรีตคลองทำงานไม่เสร็จและใกล้หมดสัญญา อ้างติดฝนตกทำให้งานล่าช้า
(10 ต.ค. 61) วันนี้ นายชัยรัตน์ สีด้วง หัวหน้าฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษายางมณี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทหาร ชุดขุนอาสา 118 ร.31 พัน 3 รอ. นำโดย ร.ท.ยุทธชัย แปลนนาค หัวหน้าชุด เดินทางมาร่วมรับฟังข้อเรียกร้องของเกษตรกรชาวนา 3 ตำบล ที่ใช้น้ำในการทำนาและเกษตรกรรมจากคลอง 1ซ้าย 3 ซ้าย หลังจากโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษายางมณี ได้ว่าจ้างผู้รับเหมามาทำการขุดและดาดคอนกรีตคลอง ตั้งแต่ตำบลย่านซื่อ อำเภอเมือง,ตำบลเทวราช อำเภอไชโย ไปจนถึงวัดปราสาท ตำบลราชสถิตย์ อำเภอไชโย เป็นระยะทางกว่า 6.1 กิโลเมตร โดยก่อนหน้านี้ทางชลประทาน ได้เรียกเกษตรกรชาวนาที่อยู่ในพื้นที่มาประชุม เพื่อรับฟังความคิดเห็นและเสนอระยะเวลาในการดำเนินการกับชาวนาว่าจะแล้วเสร็จไม่เกิน 4 เดือน แต่ระยะเวลาได้ล่วงเลยมา 5 เดือนกว่าแล้ว จนใกล้จะหมดสัญญาในอีก 20 วัน แต่ทางผู้รับเหมาในการดาดคลองก็ยังทำไม่แล้วเสร็จ แถมยังไม่มีความคืบหน้า เมื่อสอบถามไปทางผู้รับเหมาอ้างว่าติดฤดูฝน มีฝนตกลงมาทำให้ไม่สามารถทำงานได้จึงล่าช้า และในระหว่างที่ทำงานทางผู้รับเหมาได้นำดินมาถมคลองเพื่อกั้นน้ำเป็นระยะ แถมชลประทานเตรียมนำเครื่องสูบน้ำมาตั้งเพื่อสูบระบายน้ำในคลอง ซึ่งมีเกษตรกรชาวนากว่า 40 ราย ต้องเสี่ยงลงทุนทำนาไปแล้วกว่า 400 ไร่ เพราะเกรงว่าต้นข้าวจะเติบโตไม่ทันกับฤดูการณ์เก็บเกี่ยวทำให้ขาดรายได้ ถึงแม้ว่าทางราชการจะประกาศให้ชะลอการทำนาไปก่อน แต่ชาวนากลัวว่าฤดูการหน้าอาจเกิดภัยแล้งไม่มีน้ำให้ทำการเพาะปลูก ส่งผลทำให้ชาวนาใน 3 ตำบล กว่า 200 ราย ในพื้นที่เพาะปลูกกว่า 3,000 ไร่ ได้รับผลกระทบ
ด้าน นายทรงยศ มะกรูดทอง สมาชิกสภาเกษตรจังหวัดอ่างทอง เปิดเผยว่า ชาวนาใน 3 ตำบล ต้องเสี่ยงทำนาปลูกข้าวในพื้นที่จำนวนกว่า 3,000 ไร่ ซึ่งชาวนาส่วนใหญ่ต้องเช่าพื้นที่ทำนา หลังจากเข้าสู่ฤดูฝนมีฝนตกลงมาให้เพาะปลูก ทั้ง ๆ ที่ทางราชการประกาศให้ชะลอการทำนา และให้พื้นที่เป็นทุ่งรับน้ำ หลังโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษายางมณี ได้ว่าจ้างผู้รับเหมามาทำการขุดปรับสภาพ และดาดคอนกรีตคลอง 1 ซ้าย 3 ซ้าย ทางผู้รับเหมาได้นำดินมาถมคลองเพื่อปิดกั้นน้ำเป็นระยะ ทั้งที่ยังดำเนินการมาไม่ถึง และงานดาดคอนกรีตคลองยังไม่คืบหน้าจนใกล้หมดสัญญา ซึ่งทางชาวนาได้สอบถามไปยังผู้รับเหมาแจ้งว่าที่งานไม่คืบหน้าเนื่องจากมีฝนตกลงมาในพื้นที่ และทางชลประทาน ได้เตรียมนำเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่มาตั้งบนถนนที่ชาวบ้านใช้สัญจร เพื่อสูบระบายน้ำออกจากคลองทั้งที่ยังดาดคอนกรีตไม่ถึง ซึ่งทางชาวนามีความกังวลว่าในตอนนี้ยังมีฝนตก ทำให้มีน้ำลงมาหล่อเลี้ยงต้นข้าวในนา แต่ถ้าหากหลังจากหมดฤดูฝนในอีกไม่นาน แถมน้ำในคลองที่เหลือถูกสูบระบายไปจนหมด ชาวนาที่ทำนาในพื้นที่คลอง 1ซ้าย 3 ซ้าย ในช่วงที่มีการดาดคอนกรีต อาจจะไม่มีน้ำไปหล่อเลี้ยงต้นข้าวให้เจริญเติบโตต่อไปได้ ทำให้ได้รับความเสียหาย ถ้าจะสูบน้ำจากคลองลำท่าแดงที่อยู่ใกล้กันก็ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากมีพื้นที่ที่ต่ำกว่าทุ่งนาที่เพาะปลูก จึงต้องมารวมกลุ่มกันเพื่อสอบถามถึงงานดาดคอนกรีตว่าจะแล้วเสร็จเมื่อไหร่ และขอร้องทางชลประทานให้ย้ายเครื่องสูบน้ำออกจากถนนที่ใช้สัญจรและชะลอการสูบน้ำออกจากคลอง
ทางด้าน นาย ชัยรัตน์ กล่าวว่า เบื้องต้นตนเองพึ่งเข้ามารับตำแหน่งใหม่ หลังจากฟังความคิดเห็นและขอร้องจากชาวนา และจากการตรวจสอบพบว่าการว่าจ้างผู้รับเหมามาดำเนินการดาดคอนกรีต ในคลอง 1ซ้าย 3 ซ้าย อาจจะเกิดการล่าช้า ทำให้ทางผู้รับเหมาต้องเข้ามาทำงานในฤดูฝนพอดี ซึ่งถือเป็นอุปสรรคสำคัญในการทำงาน ทางชลประทานจะทำการพูดคุยกับผู้รับเหมาเพื่อแก้ปัญหาให้ชาวนา โดยช่วงนี้จะทำการปิดทางน้ำในคลองให้ตั้งแต่ กิโลเมตร 13 + 500 ถึง 19 + 600 ที่งานดาดคอนกรีตยังทำมาไม่ถึง และจะรีบนำเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ที่ตั้งกีดขวางออกจากพื้นที่ โดยยังไม่ทำการสูบน้ำในคลอง เพื่อให้ชาวนาที่ลงทุนปลูกข้าวแล้ว ได้มีน้ำไว้หล่อเลี้ยงต้นข้าวไปจนถึงฤดูเก็บเกี่ยว ในส่วนของงานดาดคอนกรีตจากการตรวจสอบทางผู้รับเหมาดำเนินการเสร็จแล้วประมาณ 3.5 กิโลเมตร ยังเหลืออีกประมาณ 4 กิโลเมตร ซึ่งตนเองคิดว่าหลังจากหมดฤดูฝนไปแล้ว ทางผู้รับเหมาก็จะดำเนินการดาดคอนกรีตในคลองที่เหลือจนเสร็จสิ้นในอีกไม่เกิน 1 – 2 เดือนข้างหน้าต่อไป
+ อ่านเพิ่มเติม