รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ระบุ ตำรวจสากลไม่มีอำนาจการสอบสวนคดีสาวชาวอังกฤษ วัย 19 ปี ที่อ้างว่าถูกข่มขืนบนเกาะเต่า ตามที่เพจ CSI LA กล่าวอ้าง ยืนยันตำรวจทำงานตามข้อมูลเท็จจริง
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี กล่าวถึงกรณีศาลจังหวัดเกาะสมุยได้ออกหมายจับนายประมุข อนันตศิลป์ แอดมินเพจCSI LA พร้อมพวกอีก 12 ราย ที่มีการแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับนักท่องเที่ยวสาวชาวอังกฤษ วัย 19 ปี ที่อ้างว่าตนเองถูกข่มขืนและตำรวจไม่สนใจรับแจ้งความ เหตุเกิดบนเกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานีนั้น
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี กล่าวว่า สำหรับการออกหมายจับครั้งนี้ไม่ได้ออกหมายจับเพราะทางเพจCSILA มีการแสดงความคิดเห็นหรือวิเคราะห์ข้อมูล แต่การออกหมายจับครั้งนี้ เนื่องจากทางเพจCSI LA ได้มีการลงข้อมูลที่บิดเบือนข้อเท็จจริงและส่งผลให้ประเทศไทยได้รับความเสียหายกระทบต่อการท่องเท่ียวเช่นเดียวกับเพจเกาะสมุยไทม์
ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ยุติการสืบสวนหาข้อเท็จจริงในคดีดังกล่าวเพราะตรวจสอบแล้วว่าไม่ได้มีการข่มขืนจริงตามที่กล่าวอ้าง ประกอบกับการตรวจสอบพยานแวดล้อม ในวันเวลาที่เกิดเหตุนั้น โดยในคืนวันเกิดเหตุเป็นวันขึ้น 14 ค่ำ เดือน 8 มีการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก ห้วงเวลาดังกล่าวระดับน้ำทะเลสูงขึ้นมาถึงฝั่ง ไม่มีใครสามารถนั่งดื่มบริเวณชายหาดได้ หากผู้เสียหายอ้างว่ามีการอุ้มไปที่โขดหินจริง ก็ต้องอุ้มเดินลุยลงไปในน้ำถือว่าผิดปกติมาก นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยบริเวณริมชายหาด จึงสรุปได้ว่าไม่มีการวางยาและการข่มขืนเกิดขึ้น และพร้อมเดินทางไปสอบปากคำผู้เสียหายที่อังกฤษ เพราะต้องทำความจริงให้ปรากฎเพื่อปกป้องชื่อเสียงประเทศ ส่วนการที่เพจ CSI LA ได้โพสต์ขอความ ล่าสุด ระบุว่า ตำรวจสากล หรือ Interpol รับฟ้องและดำเนินการคดีข่มขืนสาวอังกฤษวัย 19 ปีแล้ว หลังจากได้รับคำให้การจากปากผู้เสียหาย และเชื่อว่าเหตุการณ์ข่มขืนเกิดขึ้นจริง ตอนนี้สำนวนและทีเชิ้ตซึ่งเป็นวัตถุพยาน อยู่ในการครอบครองของ Interpol แล้ว พลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ กล่าวว่า ตำรวจสากลไม่ได้มีอำนาจในการสอบสวนเป็นเพียงความร่วมมือระหว่างประเทศเท่านั้น
นอกจากนี้ทางเจ้าหน้ากงสุลอังกฤษก็ตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษถึงไม่ประสานมายังสถานฑูตอังกฤษแต่กลับไปให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นที่ประเทศอังกฤษแทน อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอังกฤษได้ทำการสอบปากคำ พร้อมนำเสื้อผ้าที่ผู้เสียหายสวมใส่ในวันเกิดเหตุไปตรวจสอบหาคราบอสุจิก่อนจะส่งมาให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไทย โดยขณะนี้สามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้แล้วทั้งสิ้น 11 ราย เหลือแอดมินเพจ CSILA อีก 1 ราย ที่ยังอยู่ในต่างประเทศ โดยในวันที่ 6 กันยายนนี้ ตนจะเดินทางไปยัง สภ.เกาะเต่า เพื่อทำการสอบปากคำผู้ต้องหาและแถลงข่าวเพื่อความชัดเจนต่อไป
+ อ่านเพิ่มเติม