ตำรวจตั้งทีมไล่ล่า 3 ชุดติดตามจับกุมพี่สาวและแฟนหนุ่ม ร่วมกันก่อเหตุข่มขืนน้องสาวอายุ 12 ปี ที่ป่วยออทิสติก ด้านครอบครัวเด็กหญิงดูแลสภาพจิตใจอย่างใกล้ชิดและยังสะเทือนใจอย่างหนัก ย่าประกาศตัดขาดกับหลานสาวและสาบแช่งที่ทำกับน้องสาวได้ลงคอ
ความคืบหน้าคดีพี่สาววัย 15 ปี ให้แฟนหนุ่มอายุ 19 ปี ข่มขืนน้องสาววัย 12 ปี ซึ่งป่วยออทิสติกจนได้รับบาดเจ็บ ที่ อ.สะเดา จ.สงขลา เหตุเกิดตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมา แต่ทั้งคู่ยังคงหลบหนีการจับกุม
ล่าสุดในวันนี้ (29ส.ค.) ทั้งตัว น.ส.ขวัญ พี่สาว และ นายสัณห์พิชย์ โกบใบ แฟนหนุ่มยังคงหลบหนีไม่ยอมเข้ามอบตัวและยังกบดานเงียบ ทาง พ.ต.อ.สวัสดิ์ ศรีแสนยง ผกก.สภ.สะเดา จ.สงขลา เปิดเผยถึงความคืบหน้าการติดตามจับกุมว่า ได้มีการตั้งทีมไล่ล่าขึ้นมา 3 ชุดทั้งชุดสืบสวน สภ.สะเดา ชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลา และชุดสืบสวนของตำรวจกองปราบปราบ โดยกระจายกำลังกันลงพื้นที่สืบสวนหาเบาะแสทั้งที่บ้านญาติ บ้านเพื่อนฝูงของทั้งสองคนแต่ก็ยังไม่พบตัว
ซึ่งข้อมูลล่าสุดจากตำรวจกองปราบ กองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปรามซึ่งได้เช็คสัญญาณโทรศัพท์มือถือของทั้งสองคนพบว่า สัญญาณครั้งสุดท้ายในพื้นที่ อ.สะเดา จ.สงขลา เมื่อวันที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมา หลังก่อเหตุ 2 วัน จากนั้นก็ขาดหายไปและยังบอกไม่ได้ว่ายังคงกบดานอยู่ในพื้นที่อีกหรือไม่
ขณะที่บรรยากาศที่บ้านพักของเด็กสาวออทิสติกเคราะห์ร้ายวัย 12 ปี ในพื้นที่ ต.พังลา อ.สะเดา นั้นขณะนี้ยังอยู่ในความดูแลของพ่อและย่าอย่างใกล้ชิด และต่างสะเทือนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
โดยเฉพาะ นางสมนึก อายุ 73 ปี ผู้เป็นย่าและเป็นคนเลี้ยงดูเด็กหญิงสองพี่น้องมาตั้งแต่เด็กๆ เพราะพ่อแม่แยกทางกัน ถึงกับสาปแช่งพี่สาวและตัดขาดจากความเป็นย่าเป็นหลานเพราะรับไม่ได้ที่ทำกับน้องสาวแบบนี้ และยังทำร้ายตัวเองจนเกือบตายด้วย หากมาขอขมาก็จะไม่ยกโทษให้เพราะใจดำเกินไป
+ อ่านเพิ่มเติม