เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (24 ส.ค.61) สถานการณ์แม่น้ำโขงจังหวัดบึงกาฬ โดยเช้าระดับน้ำลดลงเล็กน้อย อยู่ที่ 13.23 ม. แต่ปริมาณน้ำที่สะสมในพื้นที่มีมากขึ้น เนื่องจากยังคงมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องนาน บวกกับร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมา และประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณอ่าวตังเกี๋ย ส่งผลให้ภาคอีสานมีฝนตกมากยิ่งขึ้น ร้อยละ 70 ของพื้นที่ เพื่อเป็นการป้องกันมวลน้ำสะสมไหลและแม่น้ำโขงไหลเข้าท่วมพื้นที่เขตชุมชนเมือง
นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผวจ.บึงกาฬ สั่งการให้ ปภ.บึงกาฬ ร่วมกับ ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 14 อุดรธานี และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 6 ขอนแก่น สนับสนุนเครื่องสูบน้ำขนาด 14 นิ้ว จำนวน 5 เครื่อง เข้าติดตั้งตามแนวท่อระบายน้ำ บริเวณริมเขื่อนแม่น้ำโขง ถนนข้าวเม่า ต.บึงกาฬ อ.เมืองบึงกาฬ เพื่อเป็นการเฝ้าระวัง พร้อมเดินเครื่องระบายน้ำออกจากชุมชนเมืองบึงกาฬ หากระดับน้ำในท่อระบายมีมากขึ้น ด้วยอัตราการสูบ 28,000 ลิตร/วินาที / เครื่อง / สร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชน สามารถป้องกันน้ำโขงล้นเข้าเขตชุมชนได้
ส่วนที่ประตูระบายน้ำห้วยคาด ต.ปากคาด อ.ปากคาด เจ้าหน้าที่ชลประทานบึงกาฬ ต้องปิดบานระบายทั้ง 6 บาน เนื่องจากแม่น้ำโขงมีระดับสูงกว่าระดับน้ำด้านในลำห้วย พร้อมเดินเครื่องสูบน้ำ 4 เครื่อง ระบายน้ำออกวันละ 0.51 ล้าน ลบ.ม. เช่นเดียวกับที่ห้วยบางบาด ต.ชัยพร อ.เมืองบึงกาฬ ได้เปิดประตูระบายน้ำทั้ง 4 บานเร่งระบายน้ำวันละ 9.57 ล้าน ลบ.ม. ลงสู่แม่น้ำโขง แต่ก็เป็นไปด้วยความล่าช้า เนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำโขงยังสูงอยู่ ประกอบกับมีมวลน้ำสะสมที่ไหลลงมาจากภูวัว และภูสิงห์ ไหลลงมาสมทบกับปริมาณน้ำในอ่างเป็นจำนวนมาก ซึ่งขณะนี้มีระดับสูงกว่าระดับกักเก็บ 2.85 ม.
ขอบคุณภาพ มติชนออนไลน์
+ อ่านเพิ่มเติม