สาวประกันร้องขอความเป็นธรรม รถยนต์ตกถนนที่กำลังก่อสร้างจมน้ำเสียหาย
logo ข่าวอัพเดท

สาวประกันร้องขอความเป็นธรรม รถยนต์ตกถนนที่กำลังก่อสร้างจมน้ำเสียหาย

ข่าวอัพเดท : สาวตัวแทนประกันชีวิต เล่านาทีระทึกขับรถตกร่องถนนที่กำลังก่อสร้าง จมน้ำ พร้อมขอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าชดเชยค่าเสียหาย หลังพยายามติ สาวประกัน,สาวตัวแทนประกันชีวิต,รถยนต์ตกถนน,เฟซบุ๊ก,ร้องของความเป็นธรรม,ขับรถตกถนน

4,750 ครั้ง
|
09 ส.ค. 2561
 สาวตัวแทนประกันชีวิต เล่านาทีระทึกขับรถตกร่องถนนที่กำลังก่อสร้าง จมน้ำ พร้อมขอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าชดเชยค่าเสียหาย หลังพยายามติดต่อ บริษัทที่รับช่วงการก่อสร้าง แต่ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือใดๆ 
 
จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อ Nattakarn MeeMe โพสต์ภาพเหตุการณ์ ที่รถยนต์สีขาวตกไปที่บริเวณร่องถนนบริเวณเกาะกลางถนน ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างเมื่อช่วงค่ำวันที่ 7 สิงหาคม เนื่องจากบริเวณดังกล่าวมีน้ำท่วมสูงจนเสมอพื้นผิวการจราจร และในบริเวณดังกล่าวไม่มีการตั้งป้ายเตือน หรือแท่งบาริเออร์ เพื่อบอกว่าเป็นช่องทางการก่อสร้าง ทำให้เกิดการเข้าใจผิดตกร่องถนนที่มีความลึกที่มีความลึกมากกว่า 60 เซนติเมตร ทำให้รถยนต์เสียหาย และขณะนี้มีการแชร์กันอย่างมากในสังคมออนไลน์
 
ในจุดเกิดเหตุพบว่า บริเวณดังกล่าวคือ ถนนสุวินทวงศ์ มีนบุรี - ฉะเชิงเทรา ฝั่งมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพมหานคร ซึ่งมีการก่อสร้างเป็นทางยาวหลายกิโลเมตร และมีแท่งบาริเออร์และป้ายแจ้งการก่อสร้าง ทางด้านฝั่งที่มุ่งหน้าไปยังตัวเมืองฉะเชิงเทรา แต่ในทางกลับกันที่เป็นฝั่งมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพไม่มีการตั้งแนวบาริเออร์
 
นางสาวณัฎฐกานต์ ศรีจันจรา เจ้าของเฟซบุ๊กดังกล่าว ได้เปิดเผยในวันเกิดเหตุได้เดินทางกลับจากตัวเมืองฉะเชิงเทรา หลังไปพบลูกค้า และจะเดินทางกลับบ้านพักที่จังหวัดนนทบุรี ซึ่งขณะนั้นมีฝนตกตลอดตั้งแต่ช่วงเย็น จนมาถึงจุดเกิดเหตุเวลาประมาณ 2 ทุ่ม ก็เข้าใจว่าบริเวณดังกล่าวคือส่วนเดียวกับถนนเนื่องจากไม่มีการตั้งป้ายเตือน หรือการตั้งแนวบาริเออร์ที่จะแสดงให้เห็นชัดเจนว่าเป็นร่องถนนที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างจึงผลัดตกลงไปในร่องถนนที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง จนทำให้รถยนต์จมลงอย่างรวดเร็ว จนทำให้เกิดความเสียหายภายหลังเกิดเหตุ ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ไว้เพื่อเป็นหลักฐานในการเรียกร้องขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างถนนดังกล่าวเข้ามาช่วยเหลือชดเชยความเสียหายในครั้งนี้
 
ที่ต่อมาทางครอบครัวได้มีการพยายามติดต่อ บริษัทที่รับช่วงการก่อสร้าง ช่วงดังกล่าวมจากกรมทางหลวง แต่ได้รับการตอบกลับแค่ให้ทำเอกสารชี้แจงว่า เหตุใดบริษัทจึงต้องเข้ามาชดเชยค่าเสียหายดังกล่าว ซึ่งการเจรจาไม่ได้มีการพูดถึงการจะเข้ามารับผิดชอบใดๆ ส่วนรถยนต์ขณะนี้ได้ส่งให้ศูนย์ให้ดำเนินการตรวจสอบว่าจะต้องใช้ค่าใช้จ่ายเท่าใด ซึ่งจากการพูดคุยเบื้องต้นกับทางประกันภัยของรถยนต์ตนเองทำให้ทราบว่าหากค่าดำเนินการซ่อมเกิน กว่าวงเงินประกัน ทางประกันภัยจะตีคืนทุนประกัน ซึ่งจะได้ประมาณ 7 แสนบาท แต่รถยนต์ของตนเองพึ่งผ่อนได้เพียง 7 เดือน หากนำเงินไปปิดบัญชีไฟแนนซ์ จะเหลือเงินเพียงแสนกว่าบาท ซึ่งส่วนตัวมองว่าทางครอบครัวตนเองไม่ได้รับความเป็นทำกับการเสียหายที่เกิดจากการก่อสร้างถนนที่ไม่มีความรับผิดชอบแบบนี้ จึงอยากขอให้ทางบริษัทหรือหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างทางดังกล่าวเข้ามาช่วยเหลือชดเชย ค่าซ่อมที่อาจจะเกินวงเงินประกันเพื่อให้สามารถซ่อมแซมรถกลับมา ให้ใช้งานได้ตามปกติ เพราะอาชีพของตนเองต้องใช้รถยนต์ในการเดินทาง  
 
;