พบศพชายนิรนามถูกฆ่าตีหัวลอยอืดคลองรังสิต
logo ข่าวอัพเดท

พบศพชายนิรนามถูกฆ่าตีหัวลอยอืดคลองรังสิต

ข่าวอัพเดท : วันนี้ (8 ส.ค.) เมื่อเวลา 08.30น. พ.ต.ท.อำนาจ นาควิจิตร สารวัตรสอบสวนสภ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ได้รับแจ้งเหตุ พบศพลอยอืดอยู่ในคลองรังสิต ศพชายนิรนาม,ศพชายนิรนามคลองรังสิต

2,459 ครั้ง
|
08 ส.ค. 2561
วันนี้ (8 ส.ค.) เมื่อเวลา 08.30น. พ.ต.ท.อำนาจ นาควิจิตร สารวัตรสอบสวนสภ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ได้รับแจ้งเหตุ พบศพลอยอืดอยู่ในคลองรังสิต คลอง 12 หมู่ 3 ต.บึงน้ำรักษ์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.วิวัฒน์ อัศวะวิบูลย์ ผกก.สภ.ธัญบุรี, กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสภ.ธัญบุรี , อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู และ แพทย์เวรร.พ.ธัญบุรี
 
ที่เกิดเหตุเป็นคลองรังสิตประยูรศักดิ์ ใกล้ประตูระบายน้ำคลอง 12 พบศพผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นชาย อายุประมาณ 30-35 ปี ผิวดำแดง สภาพศพนอนหงายลอยอืดอยู่ในน้ำติดริมตลิ่ง สวมเสื้อเชิ้ตสีครีมลายดอก กางเกงยีนสีน้ำเงิน และสวมกางเกงบล๊อคเซอร์สีน้ำตาล สวมถุงเท้าสีดำ ตรวจสอบภายในตัว พบเงินสดอยู่ในกระเป๋า 20 บาท และ สวมนาฬิกาสแตนเลสสีเงินที่ข้อมือขวา ตามลำตัว แขน ขา มีร่องรอยการสักลายแฟชั่น เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพเบื้องต้นพบร่องรอยบาดแผลที่ศีรษะฝั่งซ้ายพบร่องรอยแผลคล้ายถูกตีด้วยของแข็ง เสียชีวิตมาแล้วประมาณ48ชม. และตรวจสอบโดยรอบที่เกิดเหตุพบว่าที่ริมคลองอีกฝั่งพบรองเท้าอยู่บนตลิ่ง 1 คู่ 
 
ด้านพ.ต.อ.วิวัฒน์ อัศวะวิบูลย์ ผกก.สภ.ธัญบุรี เปิดเผยว่า หลังจากได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบศพลอยอืดอยู่ในคลอง ซึ่งจากการแต่งกายคล้ายวัยรุ่น จึงไม่น่าจะเป็นกลุ่มคนหาปลา เมื่อนำศพขึ้นมาจากน้ำพบร่องรอยบาดแผลการถูกฆ่าลักษณะถูกตีด้วยของแข็งที่ศีรษะ จึงได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบโดยรอบที่เกิดเหตุเพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม แต่ก็ไม่พบแต่อย่างใด สอบถามชาวบ้านในละแวกดังกล่าวไม่มีใครรู้จัก 
 
เบื้องต้นไม่พบทรัพย์สิน หรือเอกสารใดใดเกี่ยวกับผู้เสียชีวิต และไม่พบร่องรอยใดๆ ในละแวกที่เกิดเหตุ คาดว่าผู้เสียชีวิตไม่ใช่คนในพื้นที่ อย่างไรก็ตามสืบสวนและตรวจสอบว่าผู้เสียชีวิตเป็นใคร และมีเรื่องหรือปัญหากับใครหรือไม่ และจะได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในเส้นทางดังกล่าว เพื่อหาเบาะแสในการสืบสวนหาตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป ส่วนศพได้มอบให้เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูนำร่างผู้เสียชีวิตส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ร.พ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป