ร้านเบเกอรี่โอดห้ามใช้ไขมันทรานส์ ส่งผลต้องปรับราคาขนมสูงขึ้น กระทบลูกค้า วอนทบทวนใหม่
logo ข่าวอัพเดท

ร้านเบเกอรี่โอดห้ามใช้ไขมันทรานส์ ส่งผลต้องปรับราคาขนมสูงขึ้น กระทบลูกค้า วอนทบทวนใหม่

ข่าวอัพเดท : ร้านเบเกอรี่ครวญ หลังห้ามผลิตจำหน่ายและนำเข้าไขมันทรานส์ทำให้ราคาต้องปรับราคาสูงขึ้นกระทบลูกค้า เผยช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดีหากให้ใช้เนยแ ไขมันทรานส์,เบเกอรี่,ห้ามผลิตนำเข้าจำหน่าย,ร้านเบเกอรี่,ราคาแพง,เนยเทียม

5,352 ครั้ง
|
17 ก.ค. 2561
ร้านเบเกอรี่ครวญ หลังห้ามผลิตจำหน่ายและนำเข้าไขมันทรานส์ทำให้ราคาต้องปรับราคาสูงขึ้นกระทบลูกค้า เผยช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดีหากให้ใช้เนยแท้ทำให้ราคาสูงขึ้นกระทบลูกค้าหาย
 
วันนี้ (17 ก.ค. 61) ผู้สื่อข่าวได้สอบถามร้านผลิตเบเกอรี่ บริเวณตลาดแต้มาร์เก็ต ตำบลตลาดหลวง อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทอง หลังจากเมื่อวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เลขที่ 388 พ.ศ.2561 เรื่องกำหนดอาหารที่ห้ามผลิต นำเข้า หรือจำหน่าย โดยปรากฏหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ชัดเจนว่า กรดไขมันทรานส์ (Trans Fatty Acids) จากน้ำมันที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วน (Partially Hydrogenated Oils) ส่งผลเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 5 วรรคหนึ่งและมาตรา 6 (8)แห่งพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ.2522 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
 
ข้อ 1 ให้น้ำมันที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วนและอาหารที่มีน้ำมันที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วนเป็นส่วนประกอบ เป็นอาหารที่ห้ามผลิต น้ำเข้า หรือจำหน่าย
 
ข้อ 2 ประกาศฉบับนี้ ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดหนึ่งร้อยแปดสิบวัน นับแต่วันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
 
จากการสอบถาม นางจารุณี โยธากุล อายุ 38 ปี เจ้าของร้านเบเกอรี่ ปิยะดาเบเกอรี่ ที่เปิดเป็นร้านทำเบเกอรี่คูหาเล็ก ๆ เปิดเผยว่า หลังจากทราบข่าวว่ากระทรวงสาธารณสุข ประกาศห้ามนำเข้า หรือจำหน่าย กรดไขมันทรานส์ ซึ่งจะมีผลในอีก 180 วัน โดยทางร้านมีความเป็นห่วงกลัวจะได้รับผลกระทบ เนื่องจากตนเองใช้ไขมันทรานส์ ในการผลิตเบเกอรี่ในแต่ละวัน โดยจะต้องซื้อจากร้านจำหน่ายเบเกอรี่ในราคาลังละ 800 - 900 บาท เพื่อผลิตขนม และเบเกอรี่ขาย ในราคาขายส่งกล่องละ 10 บาท ราคาขายปลีกกล่องละ 12 บาท ซึ่งขนาด ตนเองใช้ไขมันทรานส์ผลิต ลูกค้าที่มาซื้อทั้งปลีกและส่งยังต่อราคา หากว่าต้องเปลี่ยนไปใช้ไขมันแท้หรือวัตถุดิบอื่นมาทดแทน ก็จะทำให้ต้นทุนในการผลิตสูงขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อลูกค้า เนื่องจากช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดี และใน 180 วันข้างหน้า หากต้องปรับราคาเพิ่มสูงขึ้นจะทำให้ลูกค้าลดน้อยลงตามไปด้วย หากเป็นไปได้อยากขอให้ทางกระทรวงสาธารณสุข พิจารณาทบทวนในเรื่องการประกาศ เนื่องจากจะทำให้ได้รับความเดือดร้อนทั้งผู้ผลิตเบเกอรี่ และลูกค้าที่ซื้อนำไปบริโภค ต่อไป
 
ข่าวที่เกี่ยวข้อง