พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยพลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พลเอกเฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก และคณะ เดินทางตรวจเยี่ยมการดำเนินการให้ความช่วยเหลือนักฟุตบอลทีมเยาวชน หมูป่าอะคาเดมี พร้อมโค้ชรวม 13 คน ที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ตำบลโป่งผา อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย
โดยทันทีที่นายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึงได้ฟังสรุปการปฏิบัติงานจากผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายและยังได้เดินสอบถามเจ้าหน้าที่ทุกส่วนที่ได้ร่วมปฏิบัติงานให้ความช่วยเหลือในครั้งนี้
นายกรัฐมนตรีได้ซักถามในเรื่องการระบายน้ำออกจากถ้ำ การสำรวจโพรงถ้ำ ตลอดจนการขุดเจาะถ่ำรถกำชับให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ และระมัดระวังอย่าให้เกิดอุบัติเหตุ หากขาดสิ่งใดรัฐบาลพร้อมที่จะช่วยเหลืออย่างเต็มที่
จากนั้นเวลา 10.30 น. พลเอกประยุทธ์และคณะเดินทางมาพบปะกับญาติของ 13 ชีวิตที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย
โดยพล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า มาเยี่ยม มาให้กำลังใจ มาให้ความหวัง เพราะนายกฯ ก็หวังเช่นนี้อยู่ทุกวัน และยังมาดูเจ้าหน้าที่ การวางแผนการทำงานต่างๆ นอกจากนี้ยังนำพระมหากรุณาธิคุณในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาถึงพวกเราด้วย ซึ่งพระองค์มีรับสั่งผ่านราชเลขานุการมาว่าท่านทรงดูแลเต็มที่ และขอให้เจ้าหน้าที่ดูแลอย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งตนก็พอใจในการทำงาน
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อไปว่า ตอนนี้แค่มีความรักอย่างเดียวไม่พอ แต่ต้องมีแรงศรัทธาด้วย โดยต้องศรัทธาในลูกๆ ของพวกเราที่แข็งแรงก่อน แล้วจากนั้นก็ศรัทธาในเจ้าหน้าที่ ทุกอย่างจะกลับมาดี เช่นเดียวกับประเทศไทยที่จะดีขึ้นได้ก็ด้วยแรงศรัทธา และนี่ก็ถือเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่มีเหตุการณ์ในลักษณะนี้ ซึ่งได้รับความช่วยเหลือจากทั้งในและต่างประเทศ และจิตอาสาของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็ช่วยกันมาตลอด
พล.อ.ประยุทธ์ยังเผยว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตรัสผ่านราชเลขานุการมาทุกวัน และทอดพระเนตรโทรทัศน์ด้วย พระองค์ทรงให้กำลังใจ ให้ทุกคนมีความหวัง พล.อ.ประยุทธ์ยังขอให้อย่าไปฟังข่าวลือใดๆ ขอให้ทำใจให้นิ่ง และมีสติตามรับสั่งของสมเด็จพระสังฆราช ให้ลองนั่งสมาธิ กำหนดลมหายใจเข้าออก
"ผมรู้ว่าทุกคนใจร้อน เป็นลูกผมผมก็ร้อน วันนี้ผมถือว่าเขาเป็นลูกผมด้วยนะ เพราะผมเป็นนายกฯ ใช่มั้ย ผมก็ถือว่าคนไทยทุกคนเป็นครอบครัวของผม เพราะฉะนั้นเขาเจ็บ เขาร้อน เขาไม่สบาย ผมก็เดือดร้อนด้วย" นายกรัฐมนตรีระบุ
พลเอกประยุทธ์ยังเล่าถึงการค้นหาผู้สูญหาย และถามถึงการเข้าไปในถ้ำของทั้ง 13 คน ว่ามีการโทรศัพท์ติดต่อกันหรือไม่ อย่างไร โค้ชเคยเข้าไปในจุดใดบ้าง พร้อมทั้งบอกว่าตนคิดว่าทั้ง 13 คนแข็งแรงเพราะเป็นนักกีฬาและยังมีอายุน้อย ตนเป็นห่วงญาติในเรื่องน้ำกัดเท้า ขอให้เอายามาทา และระวังการเดิน ถอดรองเท้าผึ่งบ้าง และยังกล่าวถึงการส่งเสริมนักฟุตบอลในระดับเยาวชน รวมถึงถามเรื่องอาหารว่ามีเพียงพอหรือไม่ บ้านมีคนดูแลหรือไม่ เป็นต้น
นายกฯ ยืนยันว่าวันนี้ไม่ได้มาเพื่อให้ทำข่าว และไม่ได้มาเพื่อการเมือง อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวถึงสถานการณ์ความเป็นไปในบ้านเมืองให้ญาติของทั้ง 13 ชีวิตได้รับฟังด้วย อาทิ การเกษตร เศรษฐกิจ รวมถึงนโยบายของรัฐบาล เป็นต้น
ช่วงท้าย พลเอกประยุทธ์ได้ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยและะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ตลอดจนพระบารมีแห่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร, สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ขอให้ทั้ง 13 ชีวิตปลอดภัย และขอให้เจ้าหน้าที่ปลอดภัย หาทางช่วยทั้ง 13 ชีวิตออกมาให้ได้เร็วที่สุด และได้บอกให้ญาติกล่าวขออโหสิกรรมในสิ่งใดๆ ที่ได้ละเมิดไม่ว่าจะมาจากใครก็ตาม รวมถึงขอให้ญาติทั้ง 13 ชีวิตนั่งสมาธิร่วมกัน
จากนั้นเวลาประมาณ 11.15 น. พลเอกประยุทธ์ได้ออกมาแถลงข่าวกับสื่อมวลชน ระบุว่าขอให้สื่อนำเสนอข่าวในทางที่ดี และเล่าว่าตนได้ทราบข่าวนี้ตั้งแต่ไปประชุมที่ฝรั่งเศส ซึ่งวันนี้ตนไม่ได้มาสร้างภาระให้กับใคร ตนมาทำงาน ซึ่งก็พอใจในระบบการทำงานที่มีอยู่ สิ่งสำคัญคือต้องจัดระเบียบให้ดี ตนเองในนามรัฐบาลก็นำแนวพระราชดำริมาปฏิบัติด้วยเช่นกัน ขอให้พลิกวิกฤติในครั้งนี้ให้เป็นโอกาส ขอให้ทุกคนคิดว่าประเทศไทยเป็นบ้านของทุกคน จนเข้าใจว่าทุกคนมีความตั้งใจ แต่ขอให้รวมกันให้เกิดผลเป็นหนึ่งเดียว ช่วยกันทำให้ต่างชาติได้เห็น
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ามีอะไรที่ต้องเพิ่มเติมในปฏิบัติการค้นหาอีกหรือไม่ นายกฯ และหัวหน้า คสช. ตอบว่าตนไม่คิดว่าต้องมีอะไรเพิ่มเติม เพราะตนถามอะไรไปเขาก็มีหมดแล้ว ตนพอใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่ สิ่งที่ต้องจัดการก่อนคือปัญหาเรื่องน้ำ ที่บางพื้นที่ก็ฝ่าเข้าไปไม่ได้ หรือบางทีก็มีน้ำซึมจากทั้งด้านบนถ้ำ ใต้ดิน เป็นต้น
พลเอกประยุทธ์กล่าวสรุปตอนท้ายว่าตนขอให้ทุกอย่างเรียบร้อย เต็มที่ ด้วยใจ ด้วยแรงรักแรงศรัทธา ภายใต้ร่มพระบารมีของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งทรงติดตามทุกข่าว ดังนั้นนำเสนอข่าวอะไรไปพระองค์ท่านจะทอดพระเนตรหมด และจะพระราชทานคำแนะนำกลับมาด้วย ตนในนามนายกฯ และรัฐบาล ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน ประชาชนในพื้นที่ ตลอดจนครอบครัว ที่รวมพลังกันและจะนำไปสู่ความสำเร็จ