กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เตรียมทีมผู้เชี่ยวชาญและทีมจากสำนักงานป้องกันควบคุมโรค ที่ 1 เชียงใหม่ พร้อมลงพื้นที่ถ้ำหลวงสนับสนุนตลอด 24 ชั่วโมง ระบุสิ่งสำคัญในขณะนี้คือการให้กำลังใจญาติพี่น้องของเด็กๆ รวมถึงทีมค้นหาทั้งหมด
นายแพทย์อัษฎางค์ รวยอาจิณ รองอธิบดีและโฆษกกรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มเด็กนักฟุตบอลและผู้ฝึกสอน รวม 13 คน ติดอยู่ภายในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอนในจังหวัดเชียงรายนั้น กรมควบคุมโรคได้ปรึกษาหารือและเตรียมทีมผู้เชี่ยวชาญจากสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 1 เชียงใหม่ พร้อมสนับสนุนตลอด 24 ชั่วโมง และร่วมดำเนินการกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด และรพ.เชียงรายประชานุเคราะห์
สำหรับเรื่องสุขภาพของเด็กๆนั้น เนื่องจากติดอยู่ภายในถ้ำหลายวันสภาพร่างกายอาจอ่อนแรงบ้างและอาจมีบาดแผลเล็กๆขีดข่วนตามแขนขา แต่เด็กทั้งหมดเป็นนักกีฬาจึงคาดว่าสภาพร่างกายจะสามารถปรับตัวและอดทนต่อเหตุการณ์ดังกล่าวได้ นอกจากนี้เด็กอาจจะป่วยด้วยโรคทั่วไปได้ เช่น โรคไข้หวัด โรคตาแดง โรคอุจจาระร่วง และโรคน้ำกัดเท้า เป็นต้น
ส่วนกรณีโรคติดต่อจากสัตว์สู่คน โดยเฉพาะค้างคาวที่มักอาศัยอยู่ในถ้ำ กรมควบคุมโรคให้ข้อมูลว่า แม้ว่าจะมีรายงานจากต่างประเทศเกี่ยวกับการติดเชื้อจากค้างคาวในบางประเทศ แต่ที่ผ่านมาในประเทศไทยไม่มีรายงานผู้ป่วยโรคติดต่ออันตรายจากค้างคาวแพร่ไปสู่คนแต่อย่างใด และหากพบเด็กๆ แล้ว เจ้าหน้าที่จะรีบดำเนินการเก็บตัวอย่างอุจจาระของค้างคาวส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อหาเชื้อรา แบคทีเรีย และเชื้อไวรัส รวมถึงเร่งดำเนินการให้รู้ผลโดยเร็วที่สุด
นายแพทย์อัษฎางค์ยังระบุว่าในช่วงเวลานี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการให้กำลังใจซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะญาติพี่น้องของเด็กๆ และทีมค้นหาที่ร่วมดำเนินการทั้งหมด โดยขอให้พบเด็กๆโดยเร็วและปลอดภัยทุกคน ทั้งนี้ ขอให้ญาติๆ และประชาชนไม่ต้องเป็นห่วง เพราะหลังจากพบเด็กๆแล้ว จะเป็นหน้าที่ของทางทีมแพทย์ในการดูแลเด็กๆ อย่างใกล้ชิดทั้งสภาพร่างกายและจิตใจของทุกคน ต่อไป
+ อ่านเพิ่มเติม