กระทรวงมหาดไทย มีหนังสือถึงผู้ว่าราชการทุกจังหวัดเป็นครั้งที่ 2 กำชับ 6 มาตรการเข้มป้องกันการทุจริตค่าอาหารกลางวันเด็กทั่วประเทศ ระบุหากพบเรื่องร้องเรียน ต้องเร่งตรวจสอบให้ได้ข้อยุติโดยเร็ว และดำเนินการเอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้อง
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย ได้ทำหนังสือด่วนที่สุดครั้งที่ 2 แจ้งถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ เรื่องกำชับ มาตรการป้องกันการทุจริตงบประมาณค่าอาหารกลางวันเด็กนักเรียนเพิ่มเติม เพื่อความต่อเนื่องในการดูแลคุณค่าทางโภชนาการอาหารกลางวันของเด็กนักเรียน และป้องกันมิให้ผู้ไม่สุจริตอาศัยโอกาสและช่องว่างต่างๆ ในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง แสวงหาประโยชน์จากงบประมาณค่าอาหารกลางวันเด็กนักเรียน จึงกำหนดแนวทางปฏิบัติ 6 มาตรการ คือ
1.ขอให้พิจารณานำระบบแนะนำ สำรับอาหารกลางวันสำหรับโรงเรียนแบบอัตโนมัติ (Thai School Lunch : TSL) มาใช้ในสถานศึกษา ซึ่งเป็นโปรแกรมความร่วมมือระหว่างสถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล และ ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ จัดทำและพัฒนาขึ้นให้มีความครอบคลุมทั้งในด้านคุณค่าทางโภชนาการตามหลักวิชาการและความสอดคล้องกับสภาพภูมิสังคมหรือบริบทของแต่ละสถานศึกษา
2.กรณีสถานศึกษาใดใช้รูปแบบการซื้อวัตถุดิบมาประกอบอาหารกลางวันเอง ให้ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนหรือชุมชน ได้แก่ ผู้ปกครอง กลุ่มแม่บ้าน ศิษย์เก่า อาสาสมัคร ที่มีอยู่ในท้องถิ่น สับเปลี่ยนหมุนเวียนกันช่วยสถานศึกษาดำเนินการ เช่น การตรวจสอบจำนวนหรือปริมาตรวัตถุดิบ การประกอบหรือการปรุงอาหาร หากสถานศึกษาใดใช้วิธีจ้างเหมาบริการให้มีการตรวจสอบจำนวนหรือปริมาตรวัตถุดิบสำคัญก่อนการประกอบอาหารด้วยทุกครั้ง
3.เพื่อความโปร่งใสและเสริมสร้างการมีส่วนร่วมในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตงบประมาณค่าอาหารกลางวัน ให้ปิดประกาศรายการอาหารและจำนวน หรือปริมาตรวัตถุดิบสำคัญที่ใช้ประกอบอาหารในแต่ละวันให้ผู้ปกครองและเด็กนักเรียนทราบ โดยพิจารณาปิดประกาศเป็นรายสัปดาห์ หรือรายเดือนตามความเหมาะสม
4.ให้ผู้กำกับดูแลและผู้บริหารท้องถิ่น หมั่นตรวจติดตามการจัดซื้อจัดจ้างอาหารกลางวันของสถานศึกษาในสังกัดให้เป็นไปตามระเบียบกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยการแต่งตั้งคณะทำงานสุ่มตรวจ หรือ ผู้กำกับดูแลและผู้บริหารท้องถิ่นลงพื้นที่สุ่มตรวจด้วยตนเองเป็นระยะ
5.การแต่งตั้งกรรมการตรวจรับพัสดุ ให้มีการหมุนเวียนสับเปลี่ยนบุคลากรมาทำหน้าที่ เว้นแต่มีข้อจำกัดด้านบุคลากรในการปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว
และ 6.หากพบว่ามีการร้องเรียน หรือการกระทำที่ไม่สุจริตเกิดขึ้น ให้ผู้กำกับดูแลหรือผู้บริหารท้องถิ่นเร่งรัดตรวจสอบข้อเท็จจริงให้เป็นที่ยุติโดยเร็ว และดำเนินการเอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
+ อ่านเพิ่มเติม