จากกรณีที่สาวชัยภูมิวัย 23 ปี เข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชนหลังถูกนำตัวไกล่เกลี่ยคดีรถชน แต่กลับถูกจับเป่าแอลกอฮอล์ก่อนถูกนำตัวเข้าห้องขัง ต่อมาระบุว่ามีเจ้าหน้าที่ยื่นข้อเสนอขอเงินจำนวน 20,000 บาท เพื่อเคลียร์คดีให้พ้นผิด และถูกตำรวจเข้ามาหอมแก้มและกอดรัดต่อหน้าประชาชนจนได้รับความอับอายนั้น
ล่าสุด พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี เปิดเผยว่า ได้สอบปากคำผู้เสียหาย และตำรวจที่ถูกกล่าวหา พร้อมรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมจากกล้องวงจรปิด และกล้องจากตู้เอทีเอ็ม พบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 1 นาย ยศนายดาบตำรวจ (ดต.ไชยา เที่ยงไธสง) ตำแหน่งผู้บังคับหมู่ป้องกันและปราบปราม ซึ่งทำหน้าที่สิบเวรควบคุมผู้ต้องหาในวันเกิดเหตุ มีพฤติกรรมเข้าข่ายกระทำความผิดอย่างชัดเจน
อีกทั้งเจ้าตัวยังยอมรับสารภาพระดับหนึ่ง จึงตั้งข้อกล่าวหา 3 กระทงหนัก ได้แก่ การเรียกรับประโยชน์ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กักขังหน่วงเหนี่ยว และกระทำอนาจาร ซึ่งขณะนี้ทาง ผบก.จว.ชลบุรี ได้ลงนามคำสั่งให้ออกราชการแล้ว ก่อนจะมีการเรียกตัวมารับทราบข้อกล่าวหาเพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนต่อไป
ขณะที่ในส่วนของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องอีก 3 นายนั้น ด.ต.เสกสิริ พิรัญเขต, ส.ต.ท.ทวิช ทองปลาย และ พ.ต.ท.ธัมมัญชิษฐ์ สิทธิศาสตร์ สารวัตรสอบสวน จากการตรวจสอบไม่พบหลักฐานการกระทำผิดอย่างชัดเจน แต่ก็ได้ตั้งคณะกรรมสอบสวนเพิ่มเติม ซึ่งหากพบว่ามีส่วนร่วมในการกระทำผิดจริงก็จะดำเนินการอย่างเด็ดขาดเช่นกัน ทั้งนี้ที่ผ่านมา ทาง สตช.ได้ประชุมยกระดับเจ้าหน้าที่ไม่ให้มีการทำผิดกฎหมายเสียเอง แต่อาจจะมีบางส่วนที่พฤติกรรมไม่ดี
ซึ่งยืนยันว่ามีจะมาตรการเด็ดขาดเพื่อไม่ให้เสียภาพพจน์ขององค์กรแน่นอน อย่างไรก็ตามในส่วนเจ้าทุกข์นั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้วางมาตรการเพื่อไม่ให้มีการข่มขู่พยาน โดยส่งเจ้าหน้าที่ไปคอยรักษาความปลอดภัย
+ อ่านเพิ่มเติม