หนุ่มเมืองเก่าร้อง โดน “สารวัตร” ไถเงิน แต่ “ไม่จ่าย” ตร.ลงร้านถี่ยิบ สารวัตร โต้กลับ !

วันที่ 6 พฤษภาคม 2568 คุณ ต๊ะ ผู้ร้องทุกข์ ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ “ถกไม่เถียง” ทางช่อง 7HD กด 35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ว่า ตนได้เปิดร้านอาหาร ทุกอย่างราคา 79 บาท มีการเล่นดนตรีสดโฟล์กเดี่ยว จนถึง 3 ทุ่มครึ่ง ได้รับอนุญาตเปิดร้านและจำหน่ายสุราอย่างถูกต้อง เปิดมาได้สักระยะหนึ่ง จนกระทั่งช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา มีตำรวจและฝ่ายปกครองมาตรวจที่ร้าน 5 คันรถ ตอนนั้นตนเข้าใจว่า ตำรวจมาทำหน้าที่กันปกติ ตนยังคิดว่า เป็นเพราะมีการเล่นดนตรีสด ตำรวจอาจมองว่าเข้าข่ายผับ-บาร์ หรือไม่ ทุกครั้งที่มีการลงตรวจมีการขอดูเอกสารอนุญาต ซึ่งก็ไม่เคยมีการแจ้งความผิดใด ๆ โดยการลงตรวจครั้งแรก (ช่วงปีใหม่) มีตัวสารวัตรที่ถูกกล่าวหามาด้วย ซึ่งทุกครั้งที่มีการลงตรวจก็มีผลกระทบต่อร้าน มีลูกค้าเช็กบิลกลับกลางคันทุกครั้ง เพราะลูกค้าอาจไม่ได้เตรียมใจมาเจออะไรแบบนี้ เนื่องจากมีการสุ่มตรวจลูกค้าด้วย 

 

จนเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้มีผู้ที่อ้างตัวว่าเป็นสารวัตรโทรมาที่เพื่อนของตน (การลงตรวจครั้งแรกได้มีการขอเบอร์ติดต่อไว้) ว่า “เดี๋ยวจะให้คนเข้าไปเก็บตังค์” ประมาณ 1,000-1,500 บาท เพื่อนก็ถามกลับว่าค่าอะไร แต่เขาถามกลับ “รู้ไหมว่ามาเปิดร้านที่นี่ต้องขอใคร” เพื่อนจึงโทรมาเล่ากับตน ตนก็บอกไปว่า “ไม่จ่าย” เลยบอกเพื่อนให้ติดต่อกลับตำรวจรายนั้นว่า ถ้าอยากได้ให้เข้ามาด้วยตัวเอง เขาไม่มา แต่ส่งสายตรวจเข้ามาบอก “ลูกพี่ให้มาเอาตังค์ “หลังจากสายตรวจกลับไปได้ไม่เกิน 1 ชั่วโมงก็ได้มีการติดต่อกับสารวัตรคนดังกล่าวอีกครั้ง โดยครั้งนี้ตนได้มีการบันทึกเสียงด้วย เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐาน โดยในคลิปเสียงดังกล่าวมีการบอกเหตุผลของการเรียกเก็บเงิน เป็นค่าให้สารวัตร 1,000 บาท ค่าตู้แดง 500 บาท หลังจากสายข้างต้น ตนจึงไปโรงพักเลยทันที เพื่อตามหาสารวัตรที่ติดต่อกัน ว่ามีตัวตนหรือไม่ ตัวส่วนตัวตนเป็นคนโวยวายอยู่แล้ว เมื่อไปถึงก็ถามเลยว่า “ท่านมีสิทธิ์อะไรโทรไปขอเงินเพื่อนผม” เขาเงียบก่อนลั่นมาว่า “ก็ไม่ได้เอาแล้วไง” 

คุณ ต๊ะ เล่าเพิ่มเติมว่า ตนคิดว่าตนเคยมีปัญหากับตำรวจ เพราะเมื่อประมาณปีที่แล้ว ณ ร้านอาหารกลางวันอีกร้านหนึ่งของตน ได้มีชายลักษณะเมาสุรา อ้างตัวเป็นเพื่อนกับผู้การ อ้างตนเป็นผู้พิพากษาภาค มาขอส่วนลดโปรโมชัน ชุด 2,000 บาท ถ้าแชร์โพสต์จะเหลือ 1,599 บาท แต่เขาบอกอยู่ในตำแหน่งที่ไม่สามารถกดแชร์โพสต์ได้ จึงแนะนำให้คนที่มาด้วยทำการแชร์แทนก็ได้ แต่เขาก็ไม่ยอมทำตามเงื่อนไข ถึงขั้นเอ่ยปากอยากพบเจ้าของร้าน ตนจึงต้องรีบขับรถจากเยาวราชกลับมาที่ร้านที่อยุธยา เมื่อถึงเขาก็อ้างว่าทางร้านแจ้งโปรโมชันไม่ชัดเจน ทั้ง ๆ ที่มีแจ้งอยู่ในเล่มเมนูทั้งหมด ตนจึงไม่ได้ให้ส่วนไป ด้านชายที่อ้างว่าเป็นเพื่อนผู้การก็ไม่พอใจ โทรศัพท์หาใครสักคนว่า “ผู้การ ผมมีปัญหาที่ร้าน…ส่งตำรวจมาหน่อย” ไม่เกิน 10 นาทีก็มีตำรวจมาเต็มร้าน ตำรวจหนึ่งในนั้นก็คือ “สารวัตร” ที่เรียกเก็บเงินร้านอาหารที่มาร้องวันนี้ โดยสารวัตรได้มาไกล่เกลี่ยให้ตนยอม เพราะคนที่ตนมีปัญหาด้วยค่อนข้างมีอำนาจ คุยกันที่ร้านไม่ลงตัวจนต้องไปจบที่โรงพัก มีการตกลงกันว่าให้จ่ายค่าทำขวัญแก่พนักงานร้านของตน 1 หมื่นบาท โดยจำนวนนี้ก็เป็นการรวมเงินจากตำรวจ ไม่ใช่จากเจ้าตัวที่มีปัญหาเอง แต่จนตอนนี้ก็ไม่มีอะไรคืบหน้า ค่าอาหารจำนวน 2 พันกว่าบาทก็ยังไม่ได้รับ

 

 

พล.ต.ต. นฤนาท พุทไธสง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ทราบเรื่องราวข้างต้นแล้วเมื่อวานนี้ ได้มีการสั่งให้ตั้งกรรมการตรวจสอบ พร้อมรายงานผลกลับมาภายใน 3 วัน เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องที่กระทบต่อองค์กร และต่อพี่น้องประชาชน โดยจะดำเนินตามขั้นตอนอย่างตรงไปตรงมา หากคุณต๊ะไม่สบายใจ สามารถเข้ามาพบท่านรองได้ ยืนยันว่าตนเป็นคนทำงานตรงไปตรงมา ไว้ใจได้แน่นอน ใครจะมาอยู่เหนือกฎหมายไม่ได้

 

ชมผ่าน YouTube ได้ที่ https://youtu.be/kpGUEXf67Oo?si=wj3AYx6gTjCjlfHP