สํานักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) รายงานว่า เมื่อวันที่ 13 เม.ย. ที่ผ่านมา นักวิจัยด้านความมั่นคงปลอดภัย Niall Merrigan ได้รายงานว่าข้อมูลผู้ใช้บริการ True Move H รั่วไหล โดยข้อมูลเหล่านี้อยู่ในบริการพื้นที่เก็บข้อมูลออนไลน์ที่ชื่อ "Amazon S3" ที่ไม่ได้มีมาตรการป้องกันเพียงพอ ส่งผลให้บุคคลภายนอกสามารถเข้าถึงและดาวน์โหลดข้อมูลดังกล่าวออกมาได้
ซึ่งข้อมูลที่หลุดออกมามีทั้งไฟล์ภาพ (นามสกุล JPG) และไฟล์เอกสาร (นามสกุล PDF) โดยเป็นไฟล์สแกนสำเนาบัตรประชาชน ใบขับขี่ และพาสปอร์ตของผู้ใช้บริการ ปริมาณข้อมูลที่อยู่บนเซิร์ฟเวอร์ดังกล่าวมีประมาณ 46,000 ไฟล์ รวมแล้วกว่า 32GB แต่ยังไม่มีการยืนยันจำนวนผู้ได้รับผลกระทบ
นักวิจัยเผยว่าได้ติดต่อประสานไปยัง True Move H เมื่อต้นเดือน มี.ค. และปัญหานี้ได้รับการแก้ไขเมื่อวันที่ 12 เม.ย. ที่ผ่านมา
ขณะที่สำนักงานพัฒนาธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์แจ้งกับผู้ใช้งาน True Move H ว่า ตอนนี้อยู่ระหว่างการประสานงานเพื่อยืนยันความถูกต้องของข้อมูล โดยผู้ใช้ควรตรวจสอบว่าใช้ข้อมูลใดในการลงทะเบียนกับผู้ให้บริการ รวมถึงอาจพิจารณาแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ในกรณีหากเกิดเหตุการณ์ผู้ประสงค์ร้ายนำข้อมูลที่หลุดรั่วออกไปใช้ในการสวมรอยหรือปลอมแปลงตัวบุคคล ซึ่งอาจส่งผลกระทบทางกฎหมายได้
ด้านนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า สำนักงาน กสทช. เรียกให้ทรูมูฟ เอช เข้าชี้แจงข้อเท็จจริงในวันอังคารที่ 17 เม.ย. 2561 เวลา 9.30 น. ณ ห้องประชุม ชั้น 4 อาคารอำนวยการ สำนักงาน กสทช.
โดยเรื่องนี้ ตามพ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 กำหนดไว้ว่า ในเรื่องนี้ผู้กระทำผิดมีโทษตามกฎหมาย หากผู้ประกอบการมีส่วนในความผิดจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย และพักใช้ เพิกถอนใบอนุญาต โดย กสทช. เป็นผู้เสียหายตามกฎหมายด้วย
นายฐากรกล่าวว่า ในกรณีนี้ หากเป็นการกระทำโดยเจตนา ทรูมูฟ เอช มีความผิดแน่นอน แต่ทั้งนี้ กสทช. ต้องเรียกทรูมูฟ เอช มาให้ข้อมูลก่อนว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร สำนักงาน กสทช.ขอตรวจสอบข้อเท็จจริงให้แน่นอนก่อน จึงจะดำเนินการต่อไป
“สำนักงาน กสทช. ให้ความสำคัญต่อกรณีดังกล่าว เนื่องจากกระทบต่อข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชนผู้ใช้บริการ สำนักงานฯจะรีบดำเนินการในเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด เพื่อคุ้มครองประชาชนผู้ใช้บริการ” นายฐากร กล่าว
+ อ่านเพิ่มเติม