จากกรณีนายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก ได้เข้ามาแจ้งความที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ให้เอาผิดนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารอิตาเลียนไทย ในข้อหาพยายามติดสินบนเจ้าหน้าที่เพื่อให้ได้รับการปล่อยตัว และมีการเรียกสอบปากคำพยานครบถ้วนจนกระทั่งมีการออกหมายเรียกนายเปรมชัย กรรณสูต กับ นายยงค์ โดดเครือ คนขับรถเพื่อมารับทราบข้อกล่าวหาดังกล่าว
เมื่อเวลา 08.30 เปรมชัย กรรณสูต พร้อม นายยงค์ คนขับรถ และทนายความเดินทางมายังกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ก่อนเวลานัดหมาย เพื่อรับทราบข้อหาติดสินบนเจ้าหน้าที่ จากกรณีคลิปสนทนาลับที่ทุ่งใหญ่ฯ ซึ่งมีสีหน้าเรียบเฉย โดยทั้งคู่ยังไม่ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน
และเมื่อเวลา 09.45 น. พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผบก.ปปป. เปิดเผยว่า หลังจากที่พนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำพยานไปเรียบร้อยแล้ว พนักงานสอบสวนมีความเห็นว่าจะต้องแจ้งข้อกล่าวหานายเปรมชัย เพิ่มเติมอีก 1 คน ในข้อหาร่วมกันติดสินบน โดยขั้นตอนการดำเนินการในวันนี้เนื่องจากนายเปรมชัยเดินเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาด้วยตัวเองตามหมายเรียก จึงสามารถปล่อยตัวกลับได้ เนื่องจากไม่ได้มีการควบคุมตัว เจ้าหน้าที่ก็จะปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมายเหมือนผู้ต้องหาทั่วๆ ไป ไม่ใช่เฉพาะนายเปรมชัย หากเป็นบุคคลอื่นก็ปฏิบัติเหมือนกัน ส่วนอีกรายที่ออกหมายเรียกมาคือบุคคลที่ร่วมกันในการพูดต่อเนื่องกันในการเสนอให้สินบน ซึ่งพยานหลักฐานที่นำไปสู่การออกหมายเรียกในวันนี้เป็นการเข้าให้ปากคำของพยานที่อยู่ในเหตุการณ์ และยังมีคลิปเสียงประกอบที่นายวิเชียร ชิณวงษ์ ได้แกะคลิปเสียงมามอบให้พนักงานสอบสวน ซึ่งใช้หลักฐานในส่วนนี้เป็นหลัก
ทั้งนี้หลักฐานดังกล่าวมีน้ำหนักเพียงพอ เมื่อได้ทำการสอบสวนแล้วพบว่าเป็นไปตามการสอบสวนเพิ่มเติม และเป็นไปตามองค์ประกอบของกฎหมาย ซึ่งพอเพียงที่จะนำมาประกอบในการพิจารณาคดี ส่วนการสรุปสำนวนคดีจะดำเนินการให้เร็วที่สุดแต่ต้องอยู่ในกรอบความรอบคอบในการสั่งคดี เพราะต้องรอผลการตรวจพิสูจน์กลับมา
คลิป
;
+ อ่านเพิ่มเติม