หลายพื้นที่ในภาคเหนือยังคงถูกปกคลุมด้วยหมอกควัน หลังค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กขนาดไม่เกิน 10 ไมครอนบางพื้นที่ยังเกิน 100 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ลำปางวิกฤติหนักเจอไฟป่าหลายจุด ค่าฝุ่นละอองที่แม่เมาะทะลุ 223 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ถนนในเขตอำเภอเมืองจังหวัดลำปางเช้านี้ยังถูกปกคลุมเต็มไปด้วยหมอกควันไฟป่าปกคลุมไปทั่ว โดยเฉพาะบริเวณห้าแยกหอนาฬิกาในเขตเทศบาลนครลำปาง และบริเวณสามแยกศูนย์ราชการจังหวัดลำปาง ถนนลำปาง-เด่นชัย เมืองลำปาง หลังมีเหตุไฟป่าอย่างหนักในหลายพื้นที่ ล่าสุดสถิติตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์ - 4 มีนาคม 2561 ในพื้นที่มีการเกิดจุดความร้อนสะสม (Hotspot) รวม 111 จุด มีการรับแจ้งเหตุไฟป่าและการลักลอบจุดไฟเผาอื่นๆ รวม 202 ครั้ง มีพื้นที่เสียหายเบื้องต้นอันเนื่องมาจากการเผา รวมแล้วทั้งหมดกว่า 3,000 ไร่
ซึ่งสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศแบบอัตโนมัติของกรมควบคุมมลพิษที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ จ.ลำปางระบุว่า วันนี้ (7 มีนาคม 2561) มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กในอากาศหรือค่า PM10 เกินค่ามาตรฐานติดต่อกันเป็นวันที่ 3 อยู่ 2 สถานี ได้แก่สถานีตรวจวัด ตั้งอยู่ใน ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง 233 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และสถานีที่ตั้งอยู่ใน ต.พระบาท อ.เมือง จ.ลำปาง ซึ่งอยู่ในเขตตัวเมืองลำปาง วัดได้ 171 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่วนสถานีตรวจวัดใน ต.แม่เมาะ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง 112 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ส่วนสภาพอากาศที่จังหวัดเชียงใหม่วันนี้ท้องฟ้าถูกปกคลุมด้วยหมอกควันสีเทา โดยที่บริเวณถนนซุปเปอร์ไฮเวย์เชียงใหม่-ลำปาง ก่อนถึงแยกข่วงสิงห์มุ่งหน้าเข้าสู่ตัวเมืองเชียงใหม่ ถูกปกคลุมด้วยหมอกควันหนาทึบจนไม่สามารถมองเห็นดอยสุเทพ
โดยเช้าวันนี้ที่สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ ที่ศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่ ณ เวลา 09.00 น. ค่า PM10 อยู่ที่ 123 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งถือเป็นวันที่ 2 ที่ค่า PM10 พุ่งสูงเกิน 100 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ในขณะที่ค่ามาตรฐานกำหนดไว้ไม่เกิน 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร หลังจากจังหวัดเชียงใหม่ ได้ออกประกาศ เรื่อง กำหนดช่วงเวลาห้ามเผาในที่โล่งทุกชนิดอย่างเด็ดขาดในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ประจำปีงบประมาณ 2561 ภายใต้ชื่อโครงการ 51 วันไม่เผา เพื่อเชียงใหม่ไร้หมอกควัน กำหนดระยะเวลาห้ามเผาตั้งแต่ 1 มีนาคม - 20 เมษายน 2561
ส่วนที่จังหวัดเชียงราย ปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กทั่วพื้นที่อำเภอแม่สายเริ่มหนาแน่น ทำให้ยอดเขาสูงซึ่งปกติจะสามารถมองเห็นได้ชัดเจนเริ่มเลือนรางจากการมีปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กลอยปกคลุมทั่วพื้นที่ โดยล่าสุดสถานที่ตรวจวัดคุณภาพอากาศ กรมควบคุมมลพิษ ที่ตั้งสถานีอนามัยแม่สาย วัดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก ขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) ได้ 84 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา เริ่มมีปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กสะสมเพิ่มขึ้น ใกล้ถึงระดับ 100 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรที่สภาพอากาศจะมีผลต่อสุขภาพ ซึ่งต้องเตรียมป้องกันขณะทำกิจกรรมในที่โล่ง จากสภาพอากาศดังกล่าว ประชาชนในพื้นที่ เริ่มมีการสวมหน้ากากอนามัยกันบ้างแล้ว ขณะที่ตามคลินิกต่างๆในพื้นที่อำเภอแม่สาย ปรากฏมีชาวบ้านจาก ฝั่งประเทศเมียนมา พาเด็กป่วยจากอาการไอและไข้หวัดเดินทางเข้ามารักษาเป็นจำนวนมากขึ้นเช่นกัน
และที่จังหวัดแพร่ เมื่อเวลา 08.00 น. สภาพอากาศยังขมุกขมัวปกคลุมทั่วจังหวัด เนื่องจาก หมอกควันเจอสภาพอากาศหนาวเย็นที่กลับมาอีกครั้ง ทำให้ค่า PM10 ลดลงจาก 183 เหลือ 81 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร แต่สภาพอากาศยังขมุกขมัวตั้งแต่เช้าถึงสาย ทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นยังไม่ดีนัก ขณะที่ทางจังหวัดได้เร่งรณรงค์และทำการตรวจสอบการเผาทุกพื้นที่ และชาวบ้านต่างเริ่มหาผ้ากรองอากาศมาสวมใส่กันบ้างแล้ว
+ อ่านเพิ่มเติม