ข่าวเย็นประเด็นร้อน - พ่อแม่ร้อง ปวีณา หงสกุล ช่วยตามหา น้องมายด์ ลูกสาวอายุ 29 ปี หายตัวปริศนาในโอมานนานกว่า 3 เดือน เพื่อนให้ข้อมูลว่าถูกสามีชาวบังกลาเทศซ้อมทำร้ายสาหัส ก่อนติดต่อไม่ได้ ล่าสุดมีข้อมูลเปิดเผยว่าเธออาจเสียชีวิตแล้ว
พ่ออายุ 68 ปี และแม่อายุ 71 ปี พร้อมด้วยเพื่อนลูกสาว เดินทางจากจังหวัดลำปาง เข้าร้องกรณี น้องมายด์ ลูกสาวอายุ 29 ปี มีสามีเป็นหนุ่มบังกลาเทศ ไปอยู่กินกันที่ประเทศโอมาน หายตัวไปนานกว่า 3 เดือน ติดต่อไม่ได้ ไม่รู้เป็นตายร้ายดีอย่างไร
เพื่อนบอกว่า ก่อนหน้านี้ลูกสาวถูกสามีบังคับให้เสพยาเสพติด ถูกทำร้ายสาหัสจนพิการมือหงิกงอ เดินกะเผลก หน้าตาบวมช้ำ พูดจาแทบฟังไม่รู้เรื่อง เหมือนไม่ตายก็ต้องพิการ
ขณะที่สามีถูกตำรวจโอมานจับกุมคดียาเสพติด เพราะเป็นเอเยนต์ค้ายาเสพติดไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ยังปิดปากเงียบ วอนมูลนิธิปวีณาฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยติดตามหาลูกสาว ไม่ว่าจะเจอในสภาพใด ขอช่วยส่งกลับมาบ้านเกิด เพราะสงสารหลานชายอายุ 10 ขวบ ลูกของน้องมายด์ ซึ่งเป็นเด็กพิเศษ เรียนอยู่ชั้น ป.6 นั่งมองเครื่องบินที่บินผ่านบ้านทุกวัน รอคอยแม่กลับมา คอยถามทำไมแม่ไม่มาสักที
เพื่อนน้องมายด์ เล่าว่า มายด์ไปทำงานร้านอาหารที่ประเทศโอมานตั้งแต่ปี 2563 ต่อมาได้รู้จักกับหนุ่มบังกลาเทศและอยู่กินกันแบบสามีภรรยา ตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่ได้เจอมายด์เลย เขาเคยกลับมาไทยช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2567 แต่ไม่ได้กลับไปเจอพ่อแม่ที่จังหวัดลำปาง และก็ไม่ได้มาเจอเพื่อน ๆ ด้วย จะติดต่อกันทางแอปเมสเซนเจอร์ และเห็นเวลาที่โพสต์เฟซบุ๊กเวลาที่ไปเที่ยวไหนทำอะไรเท่านั้น
ซึ่งเพื่อน ๆ หลายคนได้ข้อมูลไม่เหมือนกัน เวลาที่เขาไปไหนหรือมาไทย แต่เขาจะโพสต์เฟซบุ๊กในสิ่งสวยงามเวลาไปเที่ยวต่างประเทศ หรือโพสต์รูปสวย ๆ เหมือนกับว่ามีความสุขกับสามี แต่ก็ไม่เคยโพสต์ให้เห็นหน้าตาของสามี จะเห็นแต่รูปจับมือกันหรือมีสติกเกอร์แปะที่ใบหน้าสามีเท่านั้น
กระทั่งเดือนตุลาคม 2567 เห็นมายด์โพสต์รูปลงสตอรีในเฟซบุ๊กเป็นภาพกำลังนอนให้เลือดอยู่ที่โรงพยาบาล จึงสอบถามจนรู้ว่าถูกสามีทำร้าย แต่มายด์ไม่ได้บอกอะไรมาก เหมือนมีความลับที่บอกใครไม่ได้ แต่ก็พูดว่า สามีเป็นเอเยนต์ค้ายา เคยฆ่าคนมาแล้ว 3 ศพ ถ้าวันหนึ่งตัวเองหายไป อาจจะเป็นศพที่ 4 ก็ได้ ตนพยายามจะเตือนเพื่อนให้กลับบ้านดีกว่า แต่มายด์ก็ไม่เชื่อ
โดยล่าสุดที่คุยกับมายด์ก็ประมาณเดือนพฤษภาคม 2567 มายด์แช็ตมาคุยขอให้ไปบ้านและส่งเอกสารส่วนตัวมาให้เพื่อจะไปทำวีซาเข้าประเทศอังกฤษ ซึ่งตนก็ได้ส่งไปให้และเห็นเขาโพสต์เฟซบุ๊กไปเที่ยวเช็กอินที่ประเทศไต้หวัน และโพสต์อีกว่ากำลังจะไปเที่ยวประเทศอังกฤษ หลังจากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกันอีก
ภายหลังมีผู้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า สามีของน้องมายด์ทำงานเป็นเอเยนต์ค้ายาในโอมาน เพิ่งถูกจับกุมเมื่อประมาณ 2 สัปดาห์ที่แล้ว โดยเพื่อนคนหนึ่งซึ่งทำงานเป็นหมอนวดในโอมาน ได้พบน้องมายด์เป็นครั้งสุดท้ายเมื่อประมาณ 3 เดือนที่แล้ว และพบว่าสภาพร่างกายของเธอถูกทำร้ายทุบตีอย่างหนัก จากนั้นคนไทยที่อยู่โอมานได้ร่วมมือช่วยกันตามหาตามสถานที่ต่าง ๆ ในเมืองซาลาล่าเป็นเวลา 3-4 วัน แต่ก็ยังไม่พบ
ต่อมาตำรวจพิเศษที่มาเบลล่า ประเทศโอมาน ช่วยตามหาหญิงไทยรายนี้ จนเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ชาวบังกลาเทศซึ่งเป็นสามีของหญิงไทยคนดังกล่าว ได้ให้ข้อมูลว่าเธอเสียชีวิตแล้วจากการถูกทำร้ายร่างกาย แล้วนำร่างไปใส่ในโซฟา ทิ้งไว้บนภูเขา จากนั้นจึงจุดไฟเผาร่างของเธอ ทางตำรวจได้ไปตรวจสอบและพบศพที่ถูกเผาจนไหม้เกรียมอยู่บนเขาจริง ภายหลังตำรวจยืนยันว่าเป็นร่างของหญิงไทยที่หายตัวไป
โดยช่วงเย็นวันนี้ นางปวีณา จะพาพ่อแม่ของน้องมายด์ไปกองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อเข้าพบ พลจำรวจตรี สุระพันธุ์ ไทยประเสริฐ ผู้บังคับการกองการต่างประเทศ และทีมงานตำรวจสากลไทย ให้ข้อมูลและขอให้ประสานตำรวจสากลโอมาน เพื่อรอการยืนยันอีกครั้งว่า ตอนนี้น้องมายด์ยังมีชีวิตหรือเสียชีวิตแล้ว หากยังมีชีวิตก็จะเร่งให้การช่วยเหลือ แต่หากเสียชีวิต ก็จะเข้าสู่ขั้นตอนการขอรับร่างกลับบ้านเกิดต่อไป
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16.00-17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35