กาญจนบุรี จนท.พิสูจน์หลักฐานจำลองเหตุการณ์ยิงเสือดำ พบร่องรอยกระสุนในตัวเสือ 5 นัด ส่วนประธานกลุ่มอนุรักษกาญจน์ ฝากเจ้าหน้าที่ทำคดีให้รัดกุมดิ้นไม่หลุด
วันนี้ 8 ก.พ. 61 ความคืบหน้าคดี นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารบริษัทอิตาเลียนไทยเดเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) กับพวกรวม 4 คน ถูกจับกุมขณะเข้าไปลักลอบล่าสัตว์ป่า พร้อมของกลางเป็นซากเสือดำถูกถลกหนัง และซากสัตว์ป่าอีกหลายรายการ รวมทั้งอาวุธปืนพร้อมเครื่องกระสุนปืนจำนวนมาก กลางป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร บริเวณป่าห้วยปะชิ หมู่ที่ 4 ต.ชะแล อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ต่อมา นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยาน นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าชุด ฉก.พญาเสือ พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ลงพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อตรวจเก็บหลักฐานที่เกิดเหตุเพิ่มเติม รวม 21 จุด เพื่อตรวจเก็บหลักฐานต่างๆ อย่างละเอียด ตั้งแต่จุดตั้งเต็นท์ จุดพบอาวุธปืน และจุดที่พบซากสัตว์ต่างๆ พร้อมยืนยันว่า นายเปรมชัย ยังไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าพื้นที่ ส่วนปืนไรเฟิล พบว่าเป็นของ นายเปรมชัย แต่ต้องรอผลการตรวจพิสูจน์ว่าใช้กระบอกไหนยิง
โดย พ.ต.อ.สมหมาย โชติกะนาวิน นักวิทยาศาสตร์ สัญญาบัตร 4 กลุ่มงานเคมีฟิสิกส์ ศูนย์พิสูจน์หลักฐานภาค7 รักษาราชการแทน นักวิทยาศาสตร์ (สบ 4) จ.กาญจนบุรี จำลองเหตุการณ์ยิงเสือดำ ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก โดยนำซากเสือดำพาดบนท่อนไม้พร้อมนำกะโหลกมาใส่ ในลักษณะคล้ายเสือยืน เพื่อหาวิถีกระสุน โดยเจ้าหน้าที่พบว่า เสือดำมีรอยยิงทั้งหมด 5 นัด ถูกยิงเข้าทางฝั่งขวา และผู้ที่ยิงน่าจะอยู่ตำแหน่งยิงที่สูงกว่าเสือ โดยกระสุนยิงเข้าจากด้านหน้าตัวเสือดำผ่านไปด้านหลัง และมีทิศทางของกระสุนทำมุม 30 องศา จากการตรวจดูอย่างละเอียดในเบื้องต้น พบมีร่องรอยกระสุนในตัวเสือทั้งหมด 5 รู ด้วยการใช้หลอดกาแฟเสียบช่องกระสุนที่พบในตัวเสือดำบริเวณใบหูฝั่งขวา 1 นัดหัวกะโหลก 1 นัด และลำตัว 3 นัด รวมทั้งหมด 5 รูกระสุน
ด้าน พ.ต.อ.วุฒิพงษ์ เย็นจิตต์ ผกก.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า ในด้านคดีทางผู้บังคับบัญชาได้สั่งการเน้นย้ำให้ทำคดีตามพยานหลักฐานอย่างตรงไปตรงมาและเป็นธรรม ขณะนี้ต้องรอผลการตรวจเก็บรายละเอียดต่างๆ จากเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานให้ครบถ้วนทุกขั้นตอน ซึ่งวานนี้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เข้าไปเก็บหาหลักฐานต่างๆ พยานวัตถุที่เกี่ยวข้อง อาทิ ดีเอ็นเอ,รอยนิ้วมือ,กระสุน,ปลอกกระสุนปืน และอาวุธปืนที่อาจจะแอบซุกซ้อนไว้โดยรอบบริเวณที่เกิดเหตุอีก รวมทั้งสถานที่ที่ตั้งแคมป์เพื่อตรวจหาร่องรอยต่างๆ ที่สามารถนำมายืนยันการกระทำความผิดในคดีได้ เชื่อว่าคดีนี้ไม่มีอะไรซับซ้อน แต่จะต้องรอผลการตรวจพิสูจน์เป็นสำคัญเพื่อนำมาประกอบสำนวนในคดี
รายงานข่าวแจ้งว่า จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานภาค7 เบื้องต้นพบร่องรอยกระสุนปืนที่ซากไก่ฟ้าบริเวณลำตัว ส่วนซากเสือดำนั้น พบรูกระสุนที่บริเวณด้านหลังทะลุลำคอ และซากอื่นอีกส่วนหนึ่งไม่พบรอยกระสุน เพราะถูกชำแหละแล้ว ส่วนชนิดของกระสุนปืนที่ไก่ฟ้านั้น เบื้องต้นคาดว่าน่าจะเป็นชนิดลูกปราย ส่วนรูกระสุนที่พบในเสือดำยังไม่สามารถพิสูจน์ทราบชนิดได้ และเพื่อความชัดเจนจะต้องส่งให้ผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธปืนตรวจวิเคราะห์อีกครั้งหนึ่ง
ส่วนนางภินันท์ โชติรสเสรณี ประธานกลุ่มอนุรักษ์กาญจน์ ได้กล่าวถึงกรณีที่มีการลักลอบล่าสัตว์ป่าหวงห้ามของ คุณเปรมชัย พร้อมกับพวก ว่าป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฝั่งตะวันตกนี้ ทางคนกาญจน์ และทุกภาคของประเทศไทย ได้ร่วมกันปกป้องมาช้านาน แล้วกลุ่มบุคคลเหล่านี้ เป็นผู้มีการศึกษา มีครบทุกอย่าง ทำไมถึงทำได้ขนาดนี้ อยากฝากไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจในการทำสำนวน ทำให้ดิ้นไม่หลุด หากจะทราบว่าทำอย่างไรดิ้นไม่หลุด น่าจะไปปรึกษาอดีต ผู้บัญชาการตำรวจ 2 ท่านนี้ คือ พล.ต.อ.เอกเสรี กับพล.ต.อ. ประทิน 2 ท่านนี้ท่านเคยพูดในสมัยทำคดีใหญ่ๆ ทำอย่างไรที่ดิ้นกันไม่หลุด และฝากไปยังกรมอุทยานฯ ไม่อยากเห็นเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นมาอีก การตรวจสอบการเข้าออกต้องตรวจให้รอบคอบยิ่งขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
+ อ่านเพิ่มเติม