เด็กอายุ 16 เสียชีวิต ซึ่งเพื่อนอ้างว่า เล่น 'รัสเซียนรูเล็ตต์' จ่อยิงคนอื่น แต่ไม่ออก สุดท้ายออกที่ตัวเอง โดยแม่คาใจปม ปืน และแผลตกมือขวา แต่ลูกถนัดซ้าย อีกทั้งก่อนตาย ยังส่งข้อความเสียง ขอความช่วยเหลือ !
จากกรณี เด็กวัยรุ่นอายุ 16 ปี เสียชีวิตจากการยิงที่ศีรษะ โดยมีกลุ่มเพื่อน อยู่ในที่เกิดเหตุ 6 คนอ้างว่า ผู้เสียชีวิตนำปืนมาเล่น 'รัสเซียนรูเล็ตต์' ยิงใส่เพื่อน 2 ครั้ง แต่ลูกกระสุนไม่ออก จึงนำปืนจ่อที่ศีรษะตนเอง นัดที่ 3 กระสุนกลับแล่นออกจากรังเพลิง เป็นเหตุให้เสียชีวิต โดยคุณแม่ผู้เสียชีวิต คาใจหลายประเด็น
วันที่ 4 ม.ค. 65 วราพร ตุ้มเก็น (มะห์) แม่ผู้เสียชีวิต เล่าว่า ตนสงสัยเรื่องรอยกระสุนที่ศพ ที่มันอยู่ท้ายทอยฝั่งขวา และปืนก็ตกฝั่งขวา แต่ตัวลูกชายนั้นถนัดซ้าย มีหลักฐานยืนยันจากคลิปที่ตัวลูกชายซ้อมยิงปืน ก็ใช้มือข้างซ้าย แถมหลังจากเกิดเหตุ ยังมีเพื่อนร่วมวง ที่หนีกลับไปอาบน้ำที่บ้านด้วย โดยเพื่อนคนนี้ เป็นคนที่เคยมีเรื่องกับลูกชายด้วย และก่อนหน้าจะเกิดเหตุ ลูกชายยังส่งข้อความเสียงไปขอความช่วยเหลือกับรุ่นพี่ด้วย ขณะเดียวกัน ตอนเพื่อนของลูกมาตามตนไปที่เกิดเหตุ เขากลับบอกตนว่า "บี(ลูกชาย) ยืนเล่นปืนอยู่ แล้วยิงตัวเอง" แต่พอมาจำลองเหตุการณ์ให้ตำรวจ กลับบอกว่าเล่นรัสเซียนรูเล็ตต์
อย่างไรก็ตามตนกังวลเรื่องของความเป็นธรรม และมีข้อสงสัยต่าง ๆ ดังกล่าว และสิ่งที่ตนยังกังวลเพิ่มขึ้นคือ มีคนมาป้วนเปี้ยนแถวบ้าน เป็นผู้ชาย 2 คน ใส่หมวกกันน็อกเต็มใบ แต่งตัวคล้ายเด็กช่าง แล้วล่าสุดวันนี้(4 ม.ค. 65) คนแถวบ้านโทรมาบอกตนว่า มีคนเอารูปตน มาตามหาตน รูปร่างคล้ายตำรวจ แต่ตนก็ยังไม่แน่ใจว่าเป็นตำรวจจริงหรือไม่
ด้าน สุภาพ ตุ้มเก็น (แอน) น้าของผู้เสียชีวิต เล่าว่า หลังจากตนทราบว่าหลานชายเกิดเหตุดังกล่าว ตนก็รีบไปที่เกิดเหตุ ซึ่งในที่เกิดเหตุ ตนได้ยินคนในละแวกนั้นพูดว่าให้สลับปืน ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าคนพูดคือใคร และตนยังสงสัยท่าที่หลายนอนเสียชีวิต เพราะจากที่เพื่อนของหลานให้การ คือบอกว่า นั่งเล่นกันอยู่ก่อนเกิดเหตุ ทั้งนี้ ตนตั้งข้อสังเกตุว่า หากเป็นตน ถูกคนเอาปืนมาจ่อ แม้จะไม่มีลูก ก็คงไม่อยู่ให้ยิง แต่เพื่อนของหลานชาย กลับนั่งอยู่ รวมทั้งตนได้ข้อมูลมาว่า ปืนที่เกิดเหตุ ไม่ใช่ของหลานชาย
ฟาก ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล รองประธานคณะกรรมการเผยแพร่ความรู้ทางกฎหมาย สภาทนายความฯ เผยว่า ในทางกฎหมาย หากทุกคนสมัครใจเล่นรัสเซียนรูเล็ตต์กัน จะเข้าข้อกฎหมายอาญามาตรา 209 ระบุว่า ผู้ใดช่วยหรือยุยงเด็กอายุยังไม่เกินสิบหกปี ให้มีการกระทำซึ่งตัวเขาเองไม่รู้ว่าเป็นการฆ่าตัวตาย มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี อีกมาตราที่เข้ามาเกี่ยวข้องก็คือ การประมาททำให้บุคคลถึงแก่ความตาย ส่วนตัวมองว่า เพื่อนของผู้เสียชีวิตทั้ง 6 คนนั้นเข้าข่าย
ขณะที่ รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มศว ให้ความเห็นว่า เคสนี้ สามารถตรวจได้ว่าปืนนั้นมีการสลับกันหรือไม่ โดยตรวจจากกระสุุนที่ฝังอยู่ในศีรษะผู้เสียชีวิต ขณะเดียวกัน กรณีนี้ มีการลั่นไกแค่ 1 ครั้ง จึงสามารถตรวจคราบเขม่าดินปืนได้ หากไม่ได้พบที่ตัวศพ แสดงว่าถูกคนอื่นยิง ซึ่งแม้จะมีการอาบน้ำไปแล้ว เทคโนโลยีก็สามารถตรวจหาได้ ส่วนประเด็นเรื่องมือซ้ายนั้น ยังไม่สามารถมาใช้ฟันธงได้
ทั้งนี้ทางทีมงานรายการถกไม่เถียง ได้ติดต่อไปยัง พ.ต.อ.สรพงษ์ นาคะโยคี รักษาราชการแทน ผกก.สน.ลำหิน เพื่อขอคำชี้แจง ข้อสงสัยของตัวคุณแม่ ในกรณีนี้ อาทิ เรื่องการเก็บคราบเขม่าดินปืน จากศพ และเพื่อนผู้เสียชีวิต ว่าได้เก็บหรือไม่ และประเด็นที่มีเพื่อนในที่เกิดเหตุ หนีกลับไปอาบน้ำหลังจากน้องบีเสียชีวิตแล้ว ส่งผลกระทบอะไรไหม ซึ่งท่าน ผกก. สน.ลำหิน ตอนแรกได้รับปากจะโฟนอินเข้ามาชี้แจงในรายการ แต่เมื่อถึงเวลา กลับปฏิเสธที่จะให้การชี้แจง ต้องให้ผู้บังคับบัญชาสั่ง ถึงจะให้ข้อมูล ทางทีมงานจึงติดต่อไปยัง พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกสํานักงานตํารวจแห่งชาติ โดยท่านแจ้งว่า จะช่วยเร่งรัดติดตามคดีนี้ให้
ติดตาม รายการข่าวเย็นประเด็นร้อน ช่วง "ถกไม่เถียง" ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35