รวบแล้ว! พนักงานขนกระเป๋าสนามบินสุวรรณภูมิ ฉกทรัพย์ในกระเป๋าผู้โดยสาร
logo ข่าวอัพเดท

รวบแล้ว! พนักงานขนกระเป๋าสนามบินสุวรรณภูมิ ฉกทรัพย์ในกระเป๋าผู้โดยสาร

7,102 ครั้ง
|
30 ม.ค. 2561
รวบหนุ่มพนักงานขนสัมภาระ สนามบินสุวรรณภูมิ พร้อมของกลาง หลังลักทรัพย์สร้อยคอทองคำและเงินสด ผู้สื่อข่าวโทรทัศน์ช่องหนึ่ง ขณะบินกลับจากปฏิบัติงานในเกาะสมุย
 
พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา แถลงการจับกุมนายธงชัย มานะ อายุ 26 ปี พนักงานขนถ่ายสัมภาระ ภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ภายหลังก่อเหตุลักทรัพย์ภายในประเป๋าเดินทางของผู้สื่อข่าวโทรทัศน์ช่องหนึ่ง ที่เดินโดยสารมากับสายการบินบางกอกแอร์เวย์ เที่ยวบินที่ PG104 จากสนามบินสมุยปลายทางสนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 25 มกราคม ที่ผ่านมา โดยทรัพย์สินที่สูญหายไปคือสร้อยคอทางคำ จำนวน 1 เส้น และเงินสดจำนวน 5,000บาทภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่ทำการสืบสวนจนสามารถจับกุมตัวนายธงชัย ได้เมื่อวันที่ 29 มกราคม ก่อนจะขยายผลและไปตรวจค้นบ้านพัก จนพบของกลางสร้อยคอทองคำ 
 
จากการสอบปากคำ นายธงชัย รับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง ซึ่งในวันเกิดเหตุได้ ปฏิบัติหน้าที่เป็นพนักงานขนถ่ายสัมภาระอยู่บริเวณข้างเครื่องด้านหลัง ของเที่ยวบินดังกล่าว ขณะที่ขนถ่ายสัมภาระได้เห็นกระเป๋าของผู้เสียหายมีช่องด้านหน้าเปิดอยู่และเห็นถุงใส่สร้อยคอทองคำสีแดงโผล่ออกมา จึงได้เปิดดูจนพบว่ามีสร้อยคอทองคำอยู่จึงลักทรัพย์ไป ก่อนที่จะนำกล่องใส่ทองไปทิ้งที่ห้องน้ำลงในชักโครก และนำทองของกลางห่อด้วยกระดาษทิชชู และเหน็บใส่รองเท้าเพื่อให้พ้นจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจและพนักงานรักษาความปลอดภัย 
 
ทางด้านพล.ต.อ.วิระชัย ระบุว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีมีมาตรการในการป้องกันหลายมาตรการ และถึงแม้ว่าเจ้าหน้าที่จะสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหามาได้โดยตลอด แต่ก็ยังคงเกิดขึ้นสร้างภาพลักษณ์ที่ไม่ดีต่อประเทศไทย จึงต้องขอความร่วมมือประชาชนที่ใช้บริการสายการบินต่างๆ ให้เก็บรักษาสิ่งของมีค่าติดตัวขึ้นเครื่องไปด้วยเพื่อลดช่องโอากาสในการก่อเหตุของลุ่มมิจฉาชีพ 
 
ในส่วนของมาตรการป้องกันล่าสุดจากการพูดคุยกับทางการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และบริษัทที่รับช่วงในการจัดการสัมภาระทราบว่าต่อจากนี้จะมีมาตรการในการป้องกันทั้งในส่วนของการตั้งกองทุนความซื่อสัตย์ ภายในองค์กร พร้อมตรวจสอบหาช่องว่างต่างๆ ที่คนร้ายอาจจะใช้เป็นโอกาสในการก่อเหตุ เพื่อเตรียมหามาตรการในการป้องกัน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ขึ้นอีก 
 
ขณะที่นายภูริภัทร บุญนิล ผู้เสียหาย ระบุว่าส่วนตัวมีความเชื่อมั่นอยู่แล้วว่าคนร้ายต้องเป็นคนคนในสายการบินเองและตำรวจจะสามารถติดตามตัวคนร้ายได้อย่างแน่นอน ถึงแม้จุดที่คนร้ายขโมยจะไม่มีกล้องวงจรปิดก็ตาม  ซึ่งเรื่องนี้สายการบินไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ตัวของเจ้าหน้าที่เองที่ทุจริตต่ออาชีพทำให้สายการบินต้องได้รับความเสียหาย ส่วนหนึ่งก็เกิดจากความประมาทของตัวเองที่ไม่รอบคอบจนทำให้เกิดเรื่องนี้ขึ้น แต่กระเป๋าสัมภาระเป็นของเราและทรัพย์สินภายในก็เป็นของเรา ไม่ว่าเจ้าหน้าที่ส่วนใหนก็ไม่มีสิทธิ์เข้ามาตรวจค้นโดยที่เราไม่รู้และไม่ได้อนุญาติ 
 
คลิปเหตุการณ์
;

ข่าวที่เกี่ยวข้อง