เตือนภัย! "เรื่องเล่าเช้านี้" พร้อมรายการข่าวดังอีกหลายรายการโดนร้านค้าออนไลน์สวมรอย ตัดต่อภาพในรายการไปทำโฆษณาบนเฟซบุ๊ก โดยเน้นฉากเห็นผู้ประกาศ-พิธีกร แล้วตัดต่อภาพบนจอในฉาก หรือตัดต่อภาพประกอบข่าว และกราฟิกหน้าจอต่างๆ ไปใส่ภาพ-คำโฆษณาสินค้า หวังแอบอ้างให้คนหลงเชื่อ แถมบางร้านยังหลอกลวงส่งของไม่ตรงที่สั่งแล้วบล็อกหนี เผยแฝงตัวมาจากต่างประเทศในรูปโฆษณา ทีมงานรายการตัวจริงยันไม่มีทำแบบนี้ เตรียมดำเนินการทางกฎหมาย ด้านผู้บังคับการปอท.ชี้ผิดทั้ง พ.ร.บ.คอมฯ และกฎหมายอาญาฐานฉ้อโกง
เป็นประเด็นให้รายการข่าวหลายรายการต้องเดือดร้อน เมื่อทีมงานรายการ "เรื่องเล่าเช้านี้" พร้อมรายการข่าวอีกหลายรายการจากหลายสถานีโทรทัศน์ พบว่ามีร้านค้าออนไลน์บน Facebook ตัดต่อภาพในรายการไปใช้โฆษณาสินค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยตัดต่อแบบจงใจหลอกให้หลงเชื่อว่ารายการนำเสนอข่าวโฆษณาให้ จนมีประชาชนสอบถามเข้ามาเป็นจำนวนมากว่าเป็นของจริงหรือไม่
โดยวิธีการโฆษณาโดยใช้ภาพตัดต่อจากรายการโทรทัศน์เหล่านี้ ผู้กระทำจะใช้วิธีการคล้ายๆกัน ได้แก่
1. เลือกภาพที่เห็นผู้ประกาศข่าวหรือพิธีกร จากรายการข่าวชื่อดัง
2. ตัดต่อภาพส่วนที่เป็นจอ LCD หรือจอ Video Wall หรือตัดต่อภาพประกอบข่าว แล้วใส่ภาพสินค้าที่ต้องการโฆษณาเข้าไปแทน และอาจมีการใส่พาดหัวชวนให้เชื่อว่าเป็นภาพข่าว
3. ตัดต่อ หรือเพิ่มแถบบอกประเด็นข่าวด้านล่างของหน้าจอ ให้เป็นคำโฆษณาสินค้า
4. ลงโฆษณาใน Facebook โดยใช้ภาพตัดต่อเหล่านั้น แต่ไม่ปรากฎโพสต์บนเพจร้านค้า ทำให้ผู้เสียหายไม่สามารถกดรายงานปัญหา (Report) ไปยัง Facebook ได้
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบต้นตอของภาพโฆษณาตัดต่อดังกล่าว พบว่ามาจากร้านค้าออนไลน์หลายร้านซึ่งมาจากต่างประเทศ และมีการใช้ภาษาที่เหมือนผ่านระบบแปลภาษามา และยังพบว่ามีประชาชนถูกหลอกจากการซื้อสินค้าจากร้านค้าในกลุ่มนี้ด้วย โดยผู้ใช้ Facebook บางรายซื้อสินค้าไปแต่ได้รับสินค้าไม่ตรงกับที่สั่งซื้อ เมื่อท้วงติงไปก็ถูกบล็อก หรือพบว่าสั่งซื้อแว่นตาที่ทางร้านอ้างว่าปรับโฟกัสได้ด้วยตัวเอง แต่เมื่อได้รับของมาจริงกลายเป็นเพียงของเล่นเด็กเท่านั้น เป็นต้น
ล่าสุด ทีมงานเรื่องเล่าเช้านี้ออนไลน์ติดต่อไปยัง พล.ต.ต. วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บังคับการตำรวจปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งให้ข้อมูลว่าการกระทำในลักษณะนี้อาจเข้าข่ายผิดกฎหมายพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14(1) โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน อันมิใช่การกระทําความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา และมาตรา 14(5) เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ตามมาตรา 14(1) ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และอาจมีความผิดทางอาญาฐานฉ้อโกงด้วย ซึ่งผู้เสียหายสามารถแจ้งความได้
และผู้ผลิตรายการเรื่องเล่าเช้านี้แจ้งว่า ทางรายการเตรียมดำเนินการทางกฎหมายกรณีการตัดต่อแอบอ้าง รายการฯ เพื่อการค้า และให้ข้อมูลที่เป็นเท็จ รวมทั้งขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อภาพตัดต่อดังกล่าว เนื่องจากอาจเป็นการขายสินค้าหลอกลวง และประชาชนไม่ควรคลิกลิงค์จากเพจที่ตัดต่อแอบอ้าง เนื่องจากบางครั้งอาจจะเจอไวรัส, มัลแวร์ ทำให้เกิดความเสี่ยงที่จะมีความเสียหายต่อเครื่องและข้อมูลได้ด้วย
+ อ่านเพิ่มเติม