สาวร้านแว่นช้ำ ถูก “ตร.รูปหล่อ” หลอกรัก ปอกลอก 2 ล้าน ช็อก เธอเป็น “เกย์” !

 

วันที่ 26 ส.ค. 67 คุณบี (นามสมมติ) ผู้เสียหาย ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด 35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ว่า ตนรู้จักกับตำรวจคนนี้จากในโลกออนไลน์ ตอนแรกไม่รู้ว่าฝ่ายชายมีอาชีพเป็นตำรวจ หลังจากนั้นได้พูดคุยกันตามปกติ จนเมื่อเดือน ก.ค. 66 ได้นัดเจอกัน ได้พูดคุยเปิดใจกันฝ่ายชายรับได้ที่ตนเคยแต่งงานและมีลูกแล้ว และได้พาไปเจอครอบครัวฝ่ายชายเมื่อเดือน ส.ค. 66 เพื่อแสดงเจตนาว่ารักจริง

 

 

หลังจากที่คบกันไม่นานฝ่ายชายอ้างว่าครอบครัวเป็นหนี้จึงโอนเงินให้ครั้งแรก 56,000 บาท นอกจากนั้นยังมีการขอเงินตนไปจ้างเวร โดยอ้างว่าถ้าอยากเจอกันต้องโอนเงินไปให้ฝ่ายชายเพื่อไปจ้างเวร ตลอดที่คบกันฝ่ายชายมักจะพาครอบครัวไปเที่ยวด้วยตลอด โดยตนเป็นฝ่ายที่ออกเงินให้ทุกครั้ง และยังมีการมาขอเงินอีกหลายครั้ง อ้างเป็นค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ทั้งของตัวเองและครอบครัว พร้อมยืนยันว่าที่จ่ายเงินให้ตลอดเพราะเห็นว่าฝ่ายชายดูจริงใจกับตน จนกระทั่งมีคนมาเตือนว่าอาจจะถูกหลอก เช่น ค่าเวรของตำรวจ ที่ต้องเสียเงินครั้งละกว่าหมื่นบาท

 

 

คุณ เอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เล่าว่า หลังจากได้รับเรื่องร้องเรียน รู้สึกเห็นใจคุณบี ที่มีทั้งความรักและความจริงใจให้แก่ฝ่ายชาย แต่กลับต้องมาโดนหลอกเงินแบบนี้ ระหว่างที่เจ้าตัวเล่าเรื่องให้ฟังก็ร้องไห้ตลอด ซึ่งตอนแรกเจ้าตัวไม่รู้ว่าถูกหลอกตั้งแต่ต้น เนื่องจากไม่มีความรู้เรื่องการจ้างเวรของตำรวจ

 

 

พล.ต.ต. ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่าฝ่ายชายเป็นตำรวจจริง ขณะนี้ได้ประสานกับหน่วยงานต้นสังกัด เพื่อตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ว่าเงินหลักล้านที่คุณบีจ่ายให้ฝ่ายชาย เข้าข่ายหลอกลวงหรือไม่ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายบางอย่างที่แพงเกินความเป็นจริง หากมีความผิดจริงจะต้องดำเนินการทางวินัย

 

 

ทนายสงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม ให้ความเห็นด้านกฎหมายว่า การหลอกลวงของฝ่ายชายอาจมีความผิดเข้าข่ายข้อหาฉ้อโกง โดยคดีมีอายุความ 3 เดือน พร้อมฝากเตือนคุณบีว่าต้องตรวจสอบให้ไดัว่า ถูกฝ่ายชายหลอกสูบเงินตั้งแต่แรกหรือไม่ แนะนำให้ไปแจ้งความไว้ก่อนเพื่อป้องกันคดีหมดอายุความ หากพูดคุยจัดการเรื่องเงินแล้วค่อยไปถอนแจ้งความได้

 

 

พล.ต.ต.ชัยกฤต โพธิ์อ๊ะ ผู้บังคับการกองบัญชาการตำรวจนครบาล กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน กล่าวว่า ตนได้รับเรื่องร้องเรียนกับคุณบีแล้ว ว่ามีการโอนเงินให้ฝ่ายชายระหว่างที่คบหากันเป็นเวลา 1 ปี แต่หลังจากนั้นได้มีปัญหาและห่างเหินกันไป คุณบีแจ้งว่ายังไม่ประสงค์เรียกเงินคืน แต่อยากพูดคุยปรับความเข้าใจกับฝ่ายชาย ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ทั้งสองฝ่าย หากฝ่ายชายที่เป็นตำรวจทำผิดจริงก็จะต้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ด้านฝ่ายชายอยากจะชี้แจงและยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเอง ส่วนคุณบีชี้แจงว่า ไม่ประสงค์เรียกเงินคืนบางส่วน ต้องการเรียกเงินคืนในเพียงเรื่องที่ฝ่ายชายโกหกตน