มติเอกฉันท์! "ธาริต" ยื่นบัญชีทรัพย์สินเท็จ คุก 3 เดือน รอลงอาญา 2 ปี ปรับ 5 พัน ตัดสิทธิ์เป็นจนท.รัฐ 5 ปี
logo ข่าวอัพเดท

มติเอกฉันท์! "ธาริต" ยื่นบัญชีทรัพย์สินเท็จ คุก 3 เดือน รอลงอาญา 2 ปี ปรับ 5 พัน ตัดสิทธิ์เป็นจนท.รัฐ 5 ปี

ข่าวอัพเดท : ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ถ.แจ้งวัฒนะ นัดพิจารณาคดีครั้งแรก เพื่อสอบคำให้การ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตที่ปรึกษาปร ธาริต,เพ็งดิษฐ์,ป.ป.ช.,บัญชีทรัพย์สิน

7,476 ครั้ง
|
19 ม.ค. 2561
ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ถ.แจ้งวัฒนะ นัดพิจารณาคดีครั้งแรก เพื่อสอบคำให้การ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตที่ปรึกษาประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และอดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลความผิด ว่านายธาริตร่ำรวยผิดปกติด้วยการจงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จฯ ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบการทุจริตฯ มาตรา 119 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
 
โดยเมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 60 ศาลได้อ่านและอธิบายคำฟ้องให้นายธาริตรับฟังเป็นที่เข้าใจแล้ว ซึ่งนายธาริตได้ยื่นคำรับสารภาพเป็นลายลักษณ์อักษรมาก่อนหน้านี้ จึงทำให้ทีมทนายคาดการณ์ว่าวันนี้ศาลจะมีการอ่านคำพิพากษา ขณะที่นายธาริตเมื่อเดินทางมาถึงศาลได้เข้าศาลทางด้านหลังเพื่อหลบกลุ่มสื่อมวลชนที่มารอทำข่าว 
 
และล่าสุด ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีมติเอกฉันท์ พิพากษานายธาริตว่าจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งต่อ ป.ป.ช.ทุก 3 ปีที่อยู่ในตำแหน่ง สั่งตัดสิทธิ์ดำรงตำแหน่งทางเจ้าหน้าที่ของรัฐ 5 ปี นับแต่วันที่ 3 เมษายน 2560 อันเป็นวันที่นายธาริตพ้นตำแหน่งที่ปรึกษาประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และลงโทษตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย ป.ป.ช. มาตรา 41 วรรคหนึ่ง ให้จำคุก 6 เดือน ปรับ 10,000 บาท จำเลยรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษกึ่งหนึ่งคงจำคุก 3 เดือน ปรับ 5,000 บาท และไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อนจึงให้รอลงอาญา 2 ปี 
 
สำหรับนายธาริตเข้าดำรงตำแหน่งอธิบดี DSI เมื่อวันที่ 19 ต.ค. 2552 ก่อนจะพ้นตำแหน่งตามคำสั่ง คสช.ฉบับที่ 8/2557 เมื่อวันที่ 24 พ.ค.57 ให้ปฏิบัติราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี โดยให้ได้รับเงินเดือนทางสังกัดเดิมไปก่อน จนกระทั่งวันที่ 3 เม.ย. 60 สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีมีคำสั่งไล่ออก เนื่องจาก ป.ป.ช. มีมติเอกฉันท์ 7 ต่อ 0 ว่านายธาริตมีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติขณะดำรงตำแหน่ง “อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ” รวมมูลค่ากว่า 346 ล้านบาท ซึ่ง ป.ป.ช.ได้อายัดทรัพย์ที่มีชื่อของนายธาริต, นางวรรษมล เพ็งดิษฐ์ คู่สมรส และบุคคลที่เกี่ยวข้องถือครองแทนไว้ชั่วคราวก่อนหน้านี้กว่า 90 ล้านบาท

ข่าวที่เกี่ยวข้อง