พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะลงพื้นที่จ.แม่ฮ่องสอนวันนี้ โดยเดินทางไปยังลานวัฒนธรรมริมแม่น้ำปาย ศูนย์บริการและพัฒนาลุ่มน้ำปายตามพระราชดำริฯ เพื่อเยี่ยมชมผลผลิตโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ พร้อมรับฟังข้อเสนอของชาวแม่ฮ่องสอน 6 กลุ่ม เกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาอาชีพเพื่อเพิ่มรายได้ชาวแม่ฮ่องสอน ประกอบด้วย กลุ่มคนอยู่ร่วมกับป่า กลุ่มโครงการสร้างป่าสร้างรายได้ ตามพระราชดำริฯ กลุ่มเกษตรแปลงใหญ่ กลุ่มผลผลิตและผลิตภัณฑ์จากวนเกษตร ทั้งกล้วยไม้, บุก, กาแฟ, พืชสมุนไพรและถั่ว กลุ่มผู้เลี้ยงไก่แม่ฮ่องสอน/กลุ่มผลิตภัณฑ์จากขนแกะ และกลุ่มสมาชิกศูนย์ศิลปาชีพจังหวัดแม่ฮ่องสอนในพระบรมราชินูปภัมภ์
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้ยก ครม.มาเองและมาเต็ม มาเพื่อยืนยันความตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหาความยากจน โดยภายในเดือนนี้หรือเดือนหน้า จะระดมเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาผู้มีรายได้น้อย โดยเฉพาะผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะต้องลงทะเบียนในโครงการเพื่อพัฒนาตนเอง ต่อไปจะไม่มีการให้อะไรแบบให้เปล่าอีก ย้ำเป็นหน้าที่ที่ต้องทำ ไม่ใช่นโยบายประชานิยมเพื่อหาเสียง เพราะไม่ได้มาหาเสียงแต่มาหาครอบครัว วอนประชาชนอย่าเกลียดตนเอง ขณะที่ประชาชนที่มาพบนายกฯ ยืนยันรักนายกรัฐมนตรี และจะเลือกพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้แต่กล่าวเพียงว่า ค่อยว่ากันอีกรอบ
จากนั้นนายกรัฐมนตรีกล่าวว่าการลงพื้นที่จ.แม่ฮ่องสอน ในวันนี้ ได้เห็นปัญหาต่างๆที่เดือดร้อนของคนในจ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งได้รับทราบปัญหา การท่องเที่ยว สาธารณูปโภคพื้นฐาน สาธารณสุข การศึกษา ที่มีการนำเสนอโดยประธานหอการค้า ในภาพรวม หลายอย่างได้อนุมัติ ในภาพรวมจะสรุปทุกอย่างให้ได้ภายใน 1 เดือน เพื่อให้รับทราบว่าอะไรที่จะทำให้ได้โดยทันที
ทั้งนี้ในเรื่องการศึกษาและระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน หรือระบบขนส่งทางราง จะต้องทำให้มีศักยภาพมากขึ้น ส่วนปัญหาที่ดินทำกินให้ใช้ ทคช.ปลดล๊อคกับปัญหาที่มี แต่การพัฒนาต่างๆต้องคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมด้วย เป็นไปตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ที่ทรงห่วงใย และได้กำกับดูแลให้รัฐบาลทำอย่างเต็มที่เพื่อประโยชน์สุขของ ประชาชน
อย่างไรก็ตามการลงพื้นที่ แม้จะมีการสนับสนุนให้ตนเองเป็นนายกรัฐมนตรีต่อ สำหรับตนรู้สึกเฉยๆ ซึ่งยังทำหน้าที่ในปัจจุบันยังไม่เสร็จสิ้น ฉะนั้นขออย่าพูดถึงอนาคต เพราะถือเป็นอีกเรื่องหนึ่ง อย่าเอาอนาคตกับปัจจุบันมาปนกัน หรือเอาปัจจุบันไปปนกับอดีต จะไม่สามารถแก้ปัญหาอะไรได้สักอย่าง วันนี้ตนกำลังทำปัจจุบันและวางอนาคตไปข้างหน้า ไม่ว่าใครก็ตามต้องทำวิธีตามนี้ ให้ เป็นธรรม เท่าเทียม ทั่วถึง
ส่วนเรื่องไทยนิยมที่มีการพูดถึงกัน ตนได้อธิบายแล้วว่าเป็นการขับเคลื่อนจากบนลงสู่ล่าง โดยให้ประชาชนร่วมมือทำในสิ่งที่ต้องการของประชาชนเอง หากทำอะไรที่ไม่ตรงตามต้องการ ก็จะไม่สำเร็จ และกลไกสำคัญคือประชารัฐที่ต้องสอดคล้องกับการปรองดองที่ต้องขับเคลื่อนไปพร้อมกัน ทั้ง สังคม เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม เพื่อยกรายได้ของประชาชน
พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรียังได้ขอบคุณข้าราชการที่ได้ทำงานด้วยกันมา
+ อ่านเพิ่มเติม