นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. ปาฐกถาเสวนารับฟังความคิดเห็นในร่างพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง โดยยืนยันว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง และกำหนดให้การจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งสร้างมีความเท่าเทียมกัน เพื่อลดความเหลื่อมล้ำที่เกิดขึ้นในสังคม
ขณะเดียวกัน เพื่อให้การจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเป็นไปด้วยความรอบคอบคณะกรรมาธิการวิสามัญจึงได้เปิดรับฟังความคิดเห็นจากภาคส่วนต่างๆ ทั้งเพื่อเป็นการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำมาปรับปรุงแก้ไข ฐานภาษีโครงสร้าง การจัดเก็บภาษีและหลักการการลดหย่อนภาษี ให้เกิดความเท่าเทียมกันและให้มีคุณภาพเป็นประโยชน์เกิดความเป็นธรรมมากที่สุด
ส่วนการเสวนาเรื่อง "ร่างพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง" มีหน่วยงานภาครัฐ เอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคประชาชน เข้าร่วมแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก โดยนายพรชัย ฐีระเวช กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง กล่าวว่า ร่างกฎหมายดังกล่าว ถูกตราขึ้นเพื่อใช้แทนกฎหมายภาษีโรงเรือนและที่ดิน เนื่องจากที่ผ่านมาการเก็บภาษีของท้องถิ่นมีความทับซ้อนกับหน่วยงานอื่น ส่งผลให้มีรายได้ในส่วนนี้น้อย แม้ว่าจะมีผลักดันให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีความเข้มแข็งมาตั้งแต่ปี 2542 แต่เงินส่วนใหญ่ที่ใช้บริหารงานยังงบประมาณที่ได้รับการจัดสรรจากรัฐบาล
ดังนั้นเพื่อให้การจัดเก็บภาษีเป็นไปตามหลักสากล และให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น จึงจำเป็นต้องมีการปฏิรูป โดยกรรมาธิการวิสามัญฯ มีข้อเสนอให้ลดผลกระทบในการจัดเก็บภาษี ด้วยการปรับลดเพดานอัตราภาษีลงร้อยละ 40 จากอัตราการจัดเก็บจริง, เสนอให้มีบัญชีอัตราภาษีแนบท้ายเพื่อการจัดเก็บภาษีใน 2 ปีแรก ส่วนปีที่ 3 เป็นต้นไป ให้เป็นไปตามที่รัฐบาลเสนอ และที่สำคัญคือให้ยกเว้นการเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ประโยชน์เพื่อการเกษตรที่มีมูลค่าไม่เกิน 50 ล้านบาท และยกเว้นภาษีที่อยู่อาศัยตามทะเบียนบ้านที่มีมูลค่าไม่เกิน 20 ล้านบาท เพื่อให้ท้องถิ่นได้ใช้ประโยชน์จากที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่ให้ได้มากที่สุด
+ อ่านเพิ่มเติม