เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2560 เวลา 10.00 น. นายบุญฤทธิ์ นิปวณิชย์ หรือ ป.ก้อง ประธานสหพันธ์ปลัดอำเภอแห่งประเทศไทย ( ส.ปอ.ท.) พร้อมด้วย นางสาวสุเพ็ญศรี ผึ้งโคกสูง ผู้จัดการมูลนิธิส่งเสริมความเสมอภาคทางสังคม และนายสาธุ อนุโมทามิ ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อ นายสุธิ บุญมี ผอ. การข่าวและปฏิบัติการพิเศษ สำนักงานป.ป.ช. ขอให้ตรวจสอบความเห็นสั่งไม่ฟ้องของพนักงานอัยการ ในคดีที่เด็กถูกบังคับให้ค้าประเวณีในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยทาง ป.ป.ช.ได้รับเรื่องดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี
โดยในหนังสือที่ยื่น มีข้อความระบุว่า ตามที่สหพันธ์ปลัดอำเภอแห่งประเทศไทย (ส.ปอ.ท.) ได้รายงานกรณีเจ้าหน้าที่ของรัฐ ในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้เกี่ยวข้องกับความผิดที่เด็กต้องถูกบังคับให้ค้าประเวณี ให้อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ผ่านผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษภาคเหนือ) เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2560 ซึ่งต่อมาพนักงานสอบสวนของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ได้รวบรวมพยานหลักฐานการสอบสวนเพื่อจะเอาผู้กระทำผิดมาฟ้องลงโทษ โดยทราบว่าการส่งสำนวนพนักงานสอบสวนได้มีความเห็นควรสั่งฟ้องไปยังพนักงานอัยการ แต่พนักงานอัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องเกือบทุกคดี ซึ่งถึงจะเป็นอำนาจหน้าที่ของพนักงานอัยการในการสั่งคดี แต่ได้มีประเด็นที่ควรให้ตรวจสอบดังนี้
1. ผู้ที่ต้องถูกบังคับให้บริการทางเพศ ในวันที่ต้องให้บริการทางเพศ มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ซึ่งตามพรบ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ. 2539 มาตรา 8 ผู้ใดกระทำชำเราหรือกระทำอื่นใดเพื่อสำเร็จความใคร่ของตนเองหรือผู้อื่นแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปีแต่ยังไม่เกินสิบแปดปีโดยบุคคลนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ต้องรับโทษ
2. มีผู้ที่กระทำความผิดที่มีลักษณะโทรมหญิงโดยผู้เสียหายที่อายุต่ำกว่า 18 ปี ซึ่งได้กระทำโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐ อันมีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อย ซึ่งตามบทบัญญัติของกฎหมาย ทั้งความผิดเกี่ยวกับเพศ ตามประมวลกฎหมายอาญา หรือ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ. 2539 ผู้ที่ได้ร่วมกระทำชำเรา ถือว่ามีความผิดและโทษตามกฎหมาย
ดังนั้น สหพันธ์ปลัดอำเภอฯ จึงขอรายงานให้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ตรวจสอบการทำหน้าที่ของพนักงานอัยการถึงการสั่งไม่ฟ้องคดีดังกล่าว ว่าพนักงานอัยการในฐานะเจ้าพนักงานได้กระทำเกินไปกว่ากฎหมายให้อำนาจไว้ หรือนอกเหนือขอบเขตแห่งอำนาจหรือไม่
ก่อนหน้านั้น เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2560 ที่ผ่านมา นางน้ำเพชร แม่ของเด็กสาวผู้เสียหาย ที่อ้างว่าถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.น้ำเพียงดิน อ.เมืองแม่ฮ่องสอน บังคับให้ค้าประเวณีในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ตนได้รับจดหมายจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ว่า กรณีที่ได้กล่าวหาร้องเรียนผบก.ตำรวจภูธรจังหวัดแม่ฮ่องสอนกับพวก กรณีไม่รับแจ้งความคดีค้าประเวณี ค้ามนุษย์ หรือรับแจ้งแล้วแต่ไม่ดำเนินคดี จนกระทั่งผู้กล่าวหาต้องไปร้องต่อศูนย์ดำรงธรรมจึงยอมรับแจ้งความ มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงแต่สั่งให้ยุติเรื่อง คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้พิจารณาแล้ว มีมติให้ส่งเรื่องดังกล่าวให้พนักงานสอบสวนกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปราม ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
นางน้ำเพชรกล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้แจ้งประเด็นมายังทีมพนักงานสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 5 และทีมพนักงานสอบสวน สภ.เมืองแม่ฮ่องสอน ว่าพนักงานสอบสวนไม่ทำตามมติบอร์ดใหญ่ที่ได้สั่งการให้มีการสืบพยานล่วงหน้า แต่กลับปล่อยให้มีการวิ่งเต้นช่วยเหลือผู้ถูกกล่าวหา จนเจ้าหน้าที่ พม.ต้องเดือดร้อน และพบว่ายังมีการวิ่งเต้นให้มีการกลับคำให้การของผู้ถูกกล่าวหา เป็นต้น
สำหรับคดีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 กันยายน 2559 เมื่อแม่ของผู้เสียหายเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ อ้างว่า มีดาบตำรวจ สภ.น้ำเพียงดิน อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน บังคับเด็กสาว ให้ไปร่วมหลับนอนกับข้าราชการระดับสูงคนหนึ่งที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งในตัวเมืองแม่ฮ่องสอน จนปรากฎเป็นข่าวดังตามสื่อต่างๆ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
+ อ่านเพิ่มเติม