'เฉลิมเกียรติ' ยันยังไม่พบ ตร.เอี่ยว 'อดีตดาราพร้อมพวกอ้างเป็น ป.ป.ส.' อุ้ม-รีดทรัพย์
logo ข่าวอัพเดท

'เฉลิมเกียรติ' ยันยังไม่พบ ตร.เอี่ยว 'อดีตดาราพร้อมพวกอ้างเป็น ป.ป.ส.' อุ้ม-รีดทรัพย์

13,847 ครั้ง
|
08 ธ.ค. 2560
ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยันยังไม่พบเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมขบวนการ “อดีตดาราอ้างตัวเป็น ป.ป.ส.” อุ้มผู้เสียหายรีดทรัพย์ เร่งสั่งตามตัวอีก 1 ที่ยังหลบหนี ส่วนมูลเหตุเพราะต้องการทรัพย์จากผู้เสียหาย พร้อมขอประชาชนหากเคยโดนลัษณะแบบนี้ขอให้เข้าดูตัวผู้ต้องหา เพื่อแจ้งความดำเนินคดีต่อไป
 
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงการจับกุม นายวีระชัยศรีวณิก หรือหนอ วรรณึกกุล อายุ 38ปี , นายศิวัช หล่ำศรี อาบยุ 36ปี และนายณรงค์ฤทธิ์ ทองพันธุ์ อายุ 30ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดมีนบุรีในข้อหาร่วมกันบุกรุกยามวิกาล โดยใช้อาวุธปืน,แอบอ้างเป็นเจ้าพนักงาน และกระทำการเป็นเจ้าพนักงานโดยตนเองไม่ได้เป็นเจ้าพนักงานที่มีอำนาจกระทำการนั้น,พกพาอาวุธปืนไปใน ชุมชน หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต,กักขังหน่วงเหนี่ยว ที่ร่วมกันก่อเหตุ อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. เข้าคุมตัวฐพงษ์ จิตสงวน และแฟนสาวภายในร้านรับทำสีรถมอเตอร์ไซค์ย่านสายไหม ในช่วงวันที่ 28 พฤศจิกายน และมีการแชร์กันในสังคมออนไลน์ และเป็นกระแสที่ได้รับความสนใจในช่วงคืนวันที่ 6 ธันวาคม ที่ผ่านมา และต่อมาผู้ต้องหาทั้ง 3 เดินทางเข้ามอบตัววานนี้ 
 
โดยพล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ระบุว่าจากการสอบสวนขณะนี้ผู้ต้องหายังคงรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุในพื้นที่ สน.สายไหมเท่านั้น ส่วนเจตนาเพราะต้องการทรัพย์สิน และยังไม่ขอให้รายละเอียดใดๆ ซึ่งจากกาตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ขณะนี้ยังไม่พบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาเกี่ยวข้อง หรือร่วมมือกับขบวนการนี้ แต่ยืนยันว่าหากพบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจให้การช่วยเหลือ หรือร่วมอยู่ในขบวนการนี้จะดำเนินการตามขั้นตอนทันที พร้อมฝากถึงประชาชนที่อาจจะเคยถูกผู้ต้องหากลุ่มนี้ก่อเหตุขอหรือสงสัยว่าจะเป็นกลุ่มนี้ ให้เข้ามาติดต่อขอดูตัวได้ที่ สน.สายไหม และ สน.คันนายาว หรือจะเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.ใดก็ได้ เพื่อรวบรวมดำเนินคดี
 
ขณะที่พลตำรวจโทชาญเทพ ระบุว่าหากเกิดเหตุการณ์มีเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือเจ้าหน้าที่รัฐ เข้ามาแสดงตัวเพื่อจับกุม ไม่ว่าจะข้อหาใดก็ตาม สามารถแสดงความประสงค์ขอตรวจสอบการเป็นเจ้าหน้าที่จากบัตรประจำตัว หรือหากยังมีข้อสงสัยไม่แน่ใจสามารถโทรติดต่อสายด่วน 191 หรือ เบอร์ สน. ท้องที่หรือเบอร์ของหน่วยงานนั้นๆ เพื่อขอสอบถามได้ทันที ซึ่งเป็นสิทธิ์ ที่แม้จะเป็นผู้ต้องหาจริง ก็สามารถทำได้ แม้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสวมใส่เครื่องแบบ ก็ตาม ส่วนประเด็นที่ผู้ต้องหารู้ข้อมูลของผู้เสียหายก่อนที่จะมีการเข้าจับตัว จากการสอบสวนพบว่าเป็นการสืบค้นข้อมูลออนไลน์ตามปกติ ยังไม่พบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเข้ามาเกี่ยวข้อง ส่วนการดำเนินการขณะนี้เจ้ากน้าที่จะดำเนินการติดตามจับกุมตัว ผู้ต้องหาอีก หนึ่งรายที่ยังไม่เข้ามอบตัว เพื่อมาดำเนินคดี
 
ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง