ร่วมพูดคุยกับ สถาพร นาควิไลโรจน์ (ถา) นักแสดง ผู้กำกับละคร และผู้จัดรุ่นใหญ่ และ พีรวัศ กุลนันท์วัฒน์ (แอมป์) ดาราพิธีกร กับหัวข้อที่ว่า ในยุคสมัยก่อนดารา ห้ามมีแฟน ห้ามมีความรัก ห้ามมีลูก ห้ามแต่งงาน แตกต่างกับดาราในยุคสมัยปัจจุบันอย่างไร ?
วันที่ 14 ม.ค. 67 คุณสถาพร นาควิไลโรจน์ (ถา) นักแสดง ผู้กำกับละคร และผู้จัดรุ่นใหญ่ ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด 35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ว่า การปกปิดเรื่องชีวิตส่วนตัวและความรัก ในยุคอดีตเป็นเหมือนประเพณีปฏิบัติ ถูกซึมซับจากนักแสดงรุ่นใหญ่ในยุคก่อน นักแสดงที่ยังโสด จะมีอิทธิพลกับแฟนคลับมากกว่า เพราะจะทำให้แฟนคลับรู้สึกเหมือนเขาสามารถเป็นเจ้าตนได้
ในยุคก่อนเวลาอยู่ในที่สาธารณะต้องพรางตัว เพื่อความสบายใจ การเปิดตัวค่อนข้างมีผลกระทบกับอาชีพนักแสดง ยกตัวอย่างนักแสดงผู้หญิงหลาย ๆ คน ที่มีลูก มีครอบครัว ส่วนมากจะไม่ได้รับบทนางเอก ในเรื่องของการพูดคุยกับแฟนคลับต้องคุยกันผ่านจดหมาย ต่างจากสมัยนี้ที่มีโซเชียลทำให้แฟนคลับเข้าถึงดาราง่ายขึ้น ในช่วงที่ตนเปิดตัวกับแฟน ไม่ได้มีผลกระทบกับงานมากนัก งานส่วนมากเลือกจ้างตามความเหมาะสมอยู่แล้ว
ในเรื่องของการมีแฟนนอกวงการ ในสมัยก่อนยังต้องปิดบังสังคม ตนอยู่กับภรรยามา 30 ปี ระยะเวลามีส่วนช่วยทำให้เข้าใจกันมากขึ้น โลกของเราเปลี่ยนตลอดเวลา ทั้งวิถีชีวิต ความนิยม กระแส ต้องเรียนรู้และปรับตัว อย่างการรับมือกับคอมเมนต์โหด ๆ ตนเคยเจอทั้งทางจดหมายและต่อหน้า ช่วงที่เล่นละครชีวิตก็เริ่มเปลี่ยน เดินไปไหนก็มีแต่คนรู้จัก การที่ตนเป็นบุคคลสาธารณะ แน่นอนว่าต้องเป็นต้นแบบของสังคม ตนถูกสอนมาจากรุ่นสู่รุ่นให้มีความตรงต่อเวลา มีสัมมาคารวะ ยิ่งโตยิ่งต้องมีวุฒิภาวะ ยิ่งต้องเป็นแบบอย่าง ในยุคสมัยนี้ก็ยังมีอยู่เพียงแต่ว่าสัดส่วนอาจจะลดน้อยลง วิธีการแสดงออกอาจจะเปลี่ยนไปตามเวลา
พีรวัศ กุลนันท์วัฒน์ (แอมป์) ดาราพิธีกร ตนเป็นคนหนึ่งที่ตั้งคำถาม เคยถามรุ่นใหญ่หลายคน เขาบอกว่ารุ่นของตนนั้นโชคดี เพราะถ้าเป็นสมัยก่อนการมีแฟน มีครอบครัว ต้องปิดให้มิด ไปไหนกับลูกก็ไม่ได้ กลัวจะโดนจับได้ พอมาในยุคสมัยนี้ก็สบายขึ้น เพราะสมัยนี้โซเชียลทำให้เข้าถึงดาราได้ง่ายขึ้น ยกตัวอย่างครอบครัวของคุณกุ๊บกิ๊บ ที่ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวเรื่องการเปิดตัว แฟน และลูก ว่าเป็นเรื่องน่ายินดี ตรงนี้แหละเป็นตัวจุดชนวนในการเปลี่ยนยุค
การเปิดตัวแฟนของตนมีผลต่องาน คือ จากเล่นเป็นตัวเอก กลายเป็นบทตัวรอง ในเรื่องของความรักถ้าเราเติมให้เขาแล้วเขาเติมให้เรามันก็จะสมบูรณ์ แต่ถ้าเขาเติมให้เราแต่เราไม่เติมให้เขามันจะเริ่มมีช่องโหว่ คือ การที่เราอยู่ด้วยกันนาน ๆ เขาจะแสดงความเป็นเจ้าของ เมื่อเขาแสดงความเป็นเจ้าของเราไม่ได้มันจะทำให้เขาไม่อยากคบกับเราต่อ ตอนนี้ชีวิตของตน มีแค่ ทำงาน ครอบครัว ออกกำลังกาย มีอยู่ 3 อย่าง เป็นสิ่งที่ตนต้องการ ตนมีลูกชาย 1 คน อายุ 5 ขวบและคิดจะมีอยู่ลูกเพิ่ม การเลี้ยงลูกต้องมอบความสุขและเวลาให้ลูกอย่างเต็มที่
เรื่องของดาราต้องเป็นต้นแบบของสังคมนั้น ตนคิดว่า ในยุคสมัยก่อนการมีประเด็นไม่ดี กว่าจะส่งจดหมายกว่าจดหมายจะถึง อารมณ์โกรธคงทุเลาลง แต่พอเป็นยุคสมัยนี้ การโดนชมสักร้อยคอมเมนต์แต่โดนด่าหนึ่งคอมเมนต์ ต้องจัดการอารมณ์ตัวเองให้ได้ พยายามที่จะไม่ตอบโต้ ตนคิดว่าคอมเมนต์ก็เหมือนการโดนขับรถปาดหน้า เราต้องใจเย็น ๆ ยุคของตนมีความใกล้เคียงกับ สถาพร นาควิไลโรจน์ (ถา) ถ้าเปรียบเทียบกับเด็กในปัจจุบันค่อนข้างจะสอนอยากขึ้น เพราะวัฒนธรรมเปลี่ยน โซเชียลมีส่วนทำให้เด็กมีความคิดหลากหลาย เป็นเรื่องน่ากลัวสำหรับตน คอนเทนต์ในยุคนี้ไวมาก ทำให้เด็กรุ่นใหม่มีการแสดงออกที่ต่างไปจากเดิม ตนมองว่าไม่มีผิดไม่มีถูก
ติดตาม รายการ "ถกไม่เถียง" ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.30 - 18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35
+ อ่านเพิ่มเติม