กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์กรณี นายภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือน้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตอย่างกะทันหัน และเกิดเป็นข่าวหลังจาก พ่อแม่ พี่สาว ออกมาเรียกร้องความเป็นธรรม และระบุว่า ข้องใจกับสาเหตุการเสียชีวิต และเปิดเผยถึงเรื่อง อวัยวะภายใน สมอง ที่หายไป ในขณะที่กองทัพ เร่งออกมาชี้แจงและตั้งคณะกรรมการสอบสวนในเรื่องดังกล่าว โดยเบื้องต้นได้สรุปว่า เกิดพยาธิสภาพผิดปกติที่หัวใจ จนทำให้นายภคพงศ์ หัวใจวายเฉียบพลัน ส่วนกรณีอวัยวะนั้น มีการส่งอวัยวะคืนให้กับครอบครัวเป็นที่เรียบร้อยวานนี้ (24 พ.ย.) และมีการนำไปชันสูตร หาสาเหตุการเสียชีวิตต่อ
โดย น.ส.สุพิชชา ตัญกาญจน์ พี่สาวน้องเมยนักเรียนเตรียมทหารที่เสียชีวิต ได้โพสต์ภาพผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เป็นภาพชูสองนิ้ว และกำลังให้น้ำเกลืออยู่ในโรงพยาบาล หลังจากวานนี้ มีกระแสข่าวว่า ทั้งแม่และพี่สาว ต้องเข้าแอดมิน หลังจากเดินเรื่องของน้องเมย นำอวัยวะส่งชันสูตรแล้ว
โดย น.ส.สุพิชชา ระบุว่า “ขอความกรุณาทุกท่าน อย่าโจมตีชื่อเสียงของโรงเรียนเตรียมทหาร เพราะที่นี่คือสถาบันอันทรงเกียรติ และเป็นสถาบันหลักที่ผลิตกำลังของประเทศ ตอนนี้ที่เมี่ยงทำคือออกมาหาความจริงว่าเหตุใด น้องชายถึงเสียชีวิต เมี่ยงทราบว่าน้องเมยเสียที่กองพยาบาล สถานที่กองพยาบาลไม่มีใครขึ้นไปธำรงวินัยน้องได้
แต่ ก่อนหน้าวันที่17 เกิดเหตุอะไรขึ้นกับน้องเมย เพราะเมี่ยงได้รับเอกสารชันสูตรทางสถาบันพยาธิ เขียนว่า หัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน เท่านั้น มีส่วนหนึ่งที่กล่าวถึงอวัยวะภายในหลักๆ มีซี่โครงหักหนึ่งที่ ม้ามมีเลือดอีกหนึ่งที่ (ผลจาก รพ.พระมงกุฏ)
แต่ผลฉบับที่ 2 นั้น ยังทำไม่เสร็จเพราะเมี่ยงได้นำอวัยวะส่วนที่เหลือไปให้ทางสถาบันนิติวิทยาศาสตร์เมื่อวาน ต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร และทางสถาบัน จะตรวจสอบ DNA ให้ ว่าใช่ชิ้นส่วนของน้องเมยจริงหรือไม่ (ไม่ต้องไปไกลถึงเมืองนอกนะคะ และ ไม่ต้องเสียเงินหลายบาทด้วย เพราะ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ทำให้ฟรีค่ะ ไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆเป็นนโยบายของสถาบัน)
สุดท้ายนี้ ถ้าทุกคนประสงค์จะตั้งประเด็นคำถาม หรือ ท่านมีขอสงสัย ท่านเจาะจงเป็นบุคคลที่อยู่ใน รร.เตรียมทหาร เป็นทางเลือกที่ดีกว่าค่ะ #เรารักเรียมทหาร #นักเรียนเตรียมทหารรุ่น60 ปล.ตอนนี้เมี่ยงขอพักก่อนไม่งั้นเมี่ยงอาจจะ sudden cardiac arrest ตามน้องเมยไปในเร็ววัน”
ข้อมูลบางส่วนจาก ข่าวสด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
+ อ่านเพิ่มเติม