'หมอยอร์น' ให้ปากคำ ปมขับรถชน รปภ. ลากไปไกล ปฎิเสธทุกข้อกล่าวหา ยันขอให้การในชั้นศาล
logo ข่าวอัพเดท

'หมอยอร์น' ให้ปากคำ ปมขับรถชน รปภ. ลากไปไกล ปฎิเสธทุกข้อกล่าวหา ยันขอให้การในชั้นศาล

16,764 ครั้ง
|
14 พ.ย. 2560
 
  เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 14 พ.ย.60   ที่สภ.เมืองนนทบุรี  นพ.ยอร์น จิระนคร สาธารณสุขนิเทศน์เขต 12 กระทรวงสาธารณสุข  ผู้ต้องหาดื่มสุราจนเมาแล้วขับรถชนนายสมชาย ยามดี รปภ. กระทรวงสาธารณสุข ขณะกำลังปิดประตู 2 ทางเข้ากระทรวงสาธารณสุขด้านติดกัย รพ.บำราศนราดูร ในช่วงเวลา 20.00 น. ของคืนวันศุกร์ที่ 10 พ.ย.60 ที่ผ่านมา ก่อนจะขับรถทับร่างแล้วลากไปกับพื้นไกลกว่า 20 เมตร จนอาการสาหัสต้องนอนพักรักษาตัวในห้อง ICU ที่ รพ.พระนั่งเกล้า จนมีผู้นำคลิปไปแชร์ในโลกออไลน์ต่อว่าการกระทำในครั้งนี้ของ นพ.ยอร์น์ จิระนคร 
    
โดย นพ.ยอร์น์ ได้เข้าให้ปากคำกับ ร.ต.ท.สุวัฒน์ เสน่หา ร้อยเวรเจ้าของคดี  โดยมี พ.ต.อ.ปัณณพัฒน์ เดชโชติพิสิฐ ผกก.  พ.ต.ท.พันธมิตร  จ้างประเสริฐ รอง ผกก. หัวหน้างานสอบสวน สภ.เมิืองนนทบุรี ร่วมสอบปากคำ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาเบื้องต้น 2 ข้อหา คือ 1. ขับรถประมาททำ ให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัสแก่กายและใจ 2. ขับขี่รถขณะเมาสุรา โดย นพ.ยอร์น์ ได้ปฎิเสธทุกข้อกล่าวหาโดยขอให้การในชั้นศาล        
 
ขณะที่อาการล่าสุดของนายสมชาย ยามดี รปภ. ซึ่งยังนอนอยู่ในห้อง ICU ทราบจากทางพี่ชายบอก ว่าวันนี้อาการของน้องชายเริ่มดีขึ้น มีการขยับมือขยับขาได้เล็กน้อย แต่ยังไม่รู้สึกตัว ส่วนด้านการช่วยเหลือจากทาง นพ.ยอร์น จิระนครและทางกระทรวงสาธารณสุข พี่ชายนายสมชาย กล่าว่าเบื้องต้นได้รับแจ้งว่าจะดูแลเป็นอย่างดี ในเรื่องค่าใช้จ่ายและเงินส่วนที่จะเยียวยาให้ โดยจะมีการนัดทำสัญญาเป็นเอกสารพร้อมลายเซ็นรับทราบ แต่จะเป็นวันไหนนั้นต้องรอการนัดอีกครั้งหนึ่ง
 
ส่วนด้านคดีนั้น พ.ต.อ.ปัณณพัฒน์ กล่าว่าทางพนักงานสอบสวนได้เรียกให้ นพ.ยอร์น จิระนคร  มาให้ปากคำในวันนี้ เนื่องจากวันที่เกิดเหตุทาง นพ.ยอร์น ปฎิเสธไม่ยอมให้ปากคำและเป่าแอลกอฮอล์ นอกจากนี้จะมีการเรียกพยานที่เห็นเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุ รวมทั้งเพื่อนรปภ. วินจยย.รับจ้าง หรือบุคคลที่ผ่านมาเห็นมาสอบปากคำเพิ่มเติม หลังจากได้มีการสอบพยานไปบ้างแล้ว เพื่อใช้ประกอบสำนวนในการดำเนินคดี 
 
    ต่อมาที่ รพ.พระนั่งเกล้าอธิบดี กรมคุ้มครองสิทธิมนุษยชนพร้อมคณะเข้าเยี่ยมอาการของนายสมชาย ยามดี เพื่อติดตามการรักษาอาการ และหาทางช่วยเหลือผู้ป่วยตามกฎหมายคุ้มครองสิทธิที่จะได้รับในเบื้องต้นต่อไป
 
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง