นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร ร่วมกับพลตำรวจเอกเฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงผลการตรวจยึดงาช้างจำนวน 4 กิ่ง 39 ท่อน น้ำหนักกว่า 116 กิโลกรัม และเกล็ดลิ่น 15 กิโลกรัม รวมมูลค่ากว่า 11 ล้าน 7 แสน 5 หมื่นบาท โดยเจ้าหน้าที่ศุลกากรสุวรรณภูมิ สามารถตรวจยึดได้ หลังพบลำเลียงผ่านสายการบินเตอกิซแอร์ไลน์ ต้นทางจากท่าอากาศยานกินชาซา สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก โดยมีปลายทางที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยใช้วิธีการสำแดงสินค้าเป็นกระเพาะปลาจำนวน 3 หีบห่อ น้ำหนักประมาณ 120 กิโลกรัม เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่จึงอายัดตรวจสอบผ่านเครื่องเอกซเรย์ กลับพบเป็นงาช้าง
อธิบดีกรมศุลกากร ระบุว่า การตรวจยึดดังกล่าวพบว่ามีความเชื่อมโยงกับการลักลอบนำเข้างาช้าง ที่ถูกตรวจยึดได้เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา สำหรับสถิติการตรวจยึดสินค้าที่ละเมิดอนุสัญญาไซเตส ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2559 ถึงปัจจุบัน กรมศุลกากรสามารถจับกุมลักลอบนำเข้า ส่งออก นำผ่าน สัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์รวมมูลค่าของกลางกว่า 350 ล้านบาท
นอกจากนี้ งาช้างส่วนใหญ่มาจากทางประเทศแถบทวีปแอฟริกาใต้ ซึ่งเป็นประเทศกลุ่มเสี่ยง ก่อนจะใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่าน ผ่านทางสนามบินสุวรรณภูมิ และจากการตรวจสอบพบว่ามีการระบุชื่อที่อยู่ปลอมเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานจะดำเนินการเก็บหลักฐานและลายนิ้วมือทั้งหมด ก่อนจะนำของกลางส่งกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ขณะที่ในส่วนของตำรวจนั้น จะเร่งดำเนินการตรวจสอบหาผู้สั่งการและขบวนการที่ทำหน้าที่ส่งของและรับของ โดยจะขยายผลจากคดีเก่าเพื่อหาความเชื่อมโยงทั้งหมด
+ อ่านเพิ่มเติม