เปิดใจสาวถูก กรมศุลกากร เก็บภาษีแบรนด์เนม กว่า 5 หมื่น ปัดเป็นแม่ค้าออนไลน์ #ถกข่าวร้อน

1,096 ครั้ง

26 พ.ค. 2565

แชร์ข่าวไปที่

หลังจากที่เมื่อวันอังคาีที่ผ่านมา เราได้นำเสนอกรณีที่มีหญิงสาวรายหนึ่ง ซึ่งเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ แต่กลับถูกเจ้าหน้าศุลกากรเรียกตรวจและมีการเก็บค่าภาษีสินค้าแบรนด์เนมกว่าครึ่งแสนบาท โดยเมื่อวานนี้ทีมข่าวได้พยายามติดต่อไปที่หญิงสาวท่านนี้ตลอดทั้งวัน แต่ไม่สามารถติดต่อได้ ล่าสุด เราสามารถติดต่อเธอได้แล้ว และเราพร้อมเปิดพื้นที่ให้กับหญิงสาวท่านนี้ในการชี้แจงและบอกเล่าเรื่องราวทั้งหมด

วันที่ 26 พ.ค. 2565 คุณแป้ง ผู้ประสบเหตุการณ์ เผยผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ว่า จากกรณีที่รายการ คุณชัยยุทธ คำคุณ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางศุลกากร กล่าวไว้ ตนมีความรู้สึกมีความไม่พอใจ เพราะ เขากล่าวว่า ตนขายของออนไลน์ ทำให้ตัวเอง และสามีเสียหาย จึงอยากออกมาแก้ข่าวว่าตนไม่ใช่แม่ค้าออนไลน์ และอยากจะทราบว่าข้อมูลของคุณชัยยุทธเป็นข้อมูลอะไร มาจากที่ไหนเพราะมันค่อนข้างคลุมเครือ ส่วนอีกเรื่องที่คุณชัยยุทธกล่าวคือ หากท่านใดไม่ประสงค์จะนำสินค้าออก ให้ฝากที่ Customs bond (การรับฝากของไว้ในอารักขาของศุลกากร) โดยขอชี้แจงว่า วันนั้นได้สอบถามเจ้าหน้าที่แล้ว แต่ไม่มีใครให้คำตอบ หรือชี้แนะแนวทางให้เลย

ตอนนี้ของที่จ่ายภาษียังอยู่ครบทุกอย่าง และยังใช้งานอยู่ด้วย ซึ่งตนได้ถ่ายคลิปยืนยันให้กับรายการแล้ว โดยของที่โดนเก็บภาษีมี 4 ชิ้น มีกระเป่า เสื้อคลุม รองเท้า 2 คู่ จากนั้นจึงได้ขอเจ้าหน้าที่ประนีประนอม ว่าตัดของบางชิ้นได้ไหม ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ตัดออกให้คู่หนึ่ง แต่เขาไม่ได้แจ้งรายละเอียดว่าตัดคู่ไหนไป ยอดภาษีจึงเหลือ 54,000 บาท จาก 67,000 บาท

และขอแจ้งว่า แฟนเป็นบล็อกเกอร์ใช้ชีวิตประจำวันทั่วไป ที่นี้แฟนได้อัปโหลดเรื่องนี้ขึ้นบนออนไลน์บนประเทศเกาหลี ชาวเกาหลีก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นกัน แต่ที่น่าแปลกใจคือ เขาก็โดนด้วยเหมือนกัน

นอกจากนี้ก็มีคนไทยร้องเรียนมาหลายคน เนื่องจากเขากลับมาจากต่างประเทศโดนกรณีคล้ายกันหลายคนเหมือนกัน

เบื้องต้น อาจจะไปลงบันทึกประจำวัน กรณีที่คุณชัยยุทธกล่าวว่าตนอาจจะเป็นแม่ค้าออนไลน์ เพื่อความบริสุทธิ์ใจ

ขอฝากคนไทยในต่างประเทศ หากจะมาเที่ยวเมืองไทยในฐานะนักท่องเที่ยว และนำของที่มูลค่าเกิน 20,000 บาท หากถูกเก็บภาษีให้ขอใบแสดงรายการสินค้าเข้าประเทศ พร้อมเก็บใบเสร็จเสียภาษีเอาไว้ เพื่อตอนออกจากประเทศจะได้เงินคืน และอยากฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ประชาสัมพันธ์เรื่องนี้ให้คนไทย และนักท่องเที่ยวให้ชัดเจนกว่านี้ เพราะมันจะส่งผลต่อภาพลักษณ์ของประเทศได้