สำนักข่าว The Sun นำเสนอเรื่องราวสะเทือนใจที่เกิดขึ้นที่ประเทศยูกันดา กรณีผู้ป่วยจำนวนมากถูกทิ้งให้อยู่ในสภาพทุกข์ทรมาน หลังแพทย์ของโรงพยาบาลประท้วงนัดหยุดงาน ซึ่งเป็นถือเป็นการสไตรค์ของบุคลากรทางการแพทย์ครั้งแรกในรอบ 20 ปี
รายงานข่าวระบุว่า แพทย์ในยูกันดาได้ออกมาเดินขบวนประท้วง หลังประสบปัญหาค่าตอบแทนต่ำและการขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์ ล่าสุดมีรายงานผู้เสียชีวิต 2 รายจากการใช้แก๊สน้ำตาและกระสุนจริง
ด้าน Faustus Kavuma นายกสมาคมแพทย์ยูกันดา เปิดเผยว่า การประท้วงครั้งนี้เกิดจากแพทย์ไม่ได้รับเงินเดือนที่เป็นธรรม โดยแพทย์จบใหม่ได้เงินเดือนเพียง 1 หมื่นบาท ส่วนแพทย์อาวุโสได้เงินเดือนเพียง 3 หมื่นบาท ซึ่งทางสมาคมต้องการให้ปรับขึ้นเงินเดือนแพทย์เป็น 7.7 หมื่นบาท และ 4.1 แสนบาทตามลำดับ
ขณะที่ Diana Atwine ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นค่อนข้างกินวงกว้าง เพราะไม่ใช่แค่แพทย์ที่ได้รับค่าตอบแทนไม่เป็นธรรม แต่รวมไปถึงข้าราชการทุกคนก็ไม่ได้รับเงินเดือนที่น่าพอใจเช่นเดียวกัน ในขณะที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในปัจจุบันได้เงินเดือนอยู่ที่ 2.1 แสนบาท โดยเบื้องต้นทางกระทรวงยินดีที่จะพิจารณาปรับขึ้นเงินเดือนให้แพทย์ แต่ขอให้ทุกคนอดทนรอไปก่อน
สำหรับการประท้วงที่เกิดขึ้นสร้างความไม่พอใจแก่ ประธานาธิบดี Yoweri Museveni วัย 73 ปี ซึ่งกุมอำนาจในตำแหน่งผู้นำประเทศมายาวนานกว่า 31 ปี ท่ามกลางความขัดแย้งทางการเมืองที่ส่อเค้าทวีความร้อนแรง หลังเขามีความพยายามที่จะขยายฐานเสียงของตัวเองให้ครอบคลุมทั่วประเทศ เพื่อให้พร้อมกับการเลือกตั้งครั้งหน้าที่จะมีขึ้นในปี 2021