DSI รวบนักธุรกิจเนเธอร์แลนด์ลวงเด็กชายละเมิดทางเพศ ตะลึงสถิติคดีล่วงละเมิด 8 ปีนับร้อยคดี!
logo ข่าวอัพเดท

DSI รวบนักธุรกิจเนเธอร์แลนด์ลวงเด็กชายละเมิดทางเพศ ตะลึงสถิติคดีล่วงละเมิด 8 ปีนับร้อยคดี!

ข่าวอัพเดท : พันตำรวจเอก ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ แถลงข่าวการจับกุมนายเรนอล กลันเดอร์ (Reinold KLUNDER) สัญชาติเนเธอร์แ เนเธอร์แลนด์,ดีเอสไอ,นักธุรกิจ,ล่วงละเมิดทางเพศ,เด็กชาย

6,188 ครั้ง
|
06 พ.ย. 2560
พันตำรวจเอก ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ แถลงข่าวการจับกุมนายเรนอล กลันเดอร์ (Reinold KLUNDER) สัญชาติเนเธอร์แลนด์ หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเนเธอร์แลนด์ประสานมาว่ามีนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ชาวเนเธอร์แลนด์ โดยอ้างตัวเป็นนักดนตรี ล่อลวงเด็กชายอายุต่ำกว่า 15 ปีมาล่วงละเมิดทางเพศ
 
เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ พร้อมตำรวจสภ.หัวหินจึงขอหมายค้นจากศาลจังหวัดหัวหิน เข้าค้นบ้านแห่งหนึ่งในอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
 
จากการตรวจค้น พบเด็กชายอายุ 10 ปีอยู่ภายในบ้านพัก ขณะเดียวกันยังพบผ้าปูเตียง และผ้าห่มที่มีคราบสารคัดหลั่งจำนวนมาก ตลอดจนคอมพิวเตอร์ 6 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง คอมพิวเตอร์แท็บเล็ต 2 เครื่อง และการ์ดหน่วยความจำอีกจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์ sex toy และแผ่นซีดีต้องสงสัย
 
นายเรนอล ยอมรับว่า ทำทีชักชวนให้เด็กผู้ชายที่อายุต่ำกว่า 15 ปี มาเล่นน้ำที่สระว่ายน้ำในบ้านพัก และแจกขนม ก่อนจะลงมือล่วงละเมิดทางเพศ และอัดคลิปวิดีโอไว้ เพื่อเก็บไว้ดู หรือส่งต่อให้เพื่อนที่มีรสนิยมเดียวกัน
 
รองอธิบดีดีเอสไอ ระบุว่า ผู้ต้องหาอาศัยอยู่ในไทย 5 ปี และเคยก่อเหตุที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างขยายผล ว่าผู้ต้องหายังไปกระทำผิดที่ประเทศใดบ้าง และอยู่ระหว่างตรวจสอบว่าผู้ต้องหามีการคลิปวิดีโอที่บันทึกไว้ไปจำหน่ายหรือไม่ ซึ่งหากพบว่ามีการนำไปจำหน่ายจะเข้าข่ายคดีค้ามนุษย์ เบื้องต้นดีเอสไอแจ้งข้อหากระทำการอนาจารเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี และพรากผู้เยาว์ซึ่งอายุไม่เกิน 15 ปี พร้อมขยายผล 
 
อนึ่ง สถิติการก่อเหตุล่วงละเมิดทางเพศเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ตั้งแต่ 2553 - 2560 พบมีการก่อเหตุที่จังหวัดชลบุรีจำนวน 113 ราย, เชียงใหม่ 25 ราย และกรุงเทพมหานคร 12 ราย นอกจากนี้ยังพบมีการก่อเหตุตามแหล่งท่องเที่ยวกว่า 10 จังหวัด โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่ก่อเหตุส่วนใหญ่เป็นชาวอังกฤษร้อยละ 45, ชาวอเมริกัน ร้อยละ 24, ชาวเยอรมันร้อยละ 24, ชาวฝรั่งเศส ร้อยละ 18 และ ชาวสวิสเซอร์แลนด์ ร้อยละ 8

ข่าวที่เกี่ยวข้อง