บรรยากาศที่บริเวณใต้สะพานพระปิ่นเกล้าต่อเนื่องถนนราชดำเนินวันนี้ในช่วงบ่าย การจราจรเริ่มกลับมาเป็นปกติ รถสามารถเคลื่อนผ่านสะพานพระปิ่นเกล้าเข้าสู่ถนนราชดำเนินกลางได้คล่องตัว ไม่มีประชาชนมาจับจองพื้นที่บริเวณพระอาทิตย์ ถนนเจ้าฟ้า และถนนราชดำเนินกลางดังเช่นก่อนหน้านี้
ทีมข่าวเรื่องเล่าเช้านี้ออนไลน์ลงไปสำรวจความเคลื่อนไหวของประชาชนบริเวณดังกล่าว พบว่ายังมีประชาชนและเหล่าจิตอาสายังคอยบริการอาหารและน้ำดื่มให้แก่ผู้ที่ผ่านไปมาอย่างต่อเนื่อง โดยจุดใหญ่อยู่ที่เต๊นท์อาหารพระราชทาน บริเวณใกล้กองสลากเก่า เราพูดคุยกับจิตอาสาถึงความรู้สึกทั้งที่มีต่อในหลวงรัชกาลที่ 9 ต่อการทำหน้าที่จิตอาสา ตลอดจนการนำคำสอนของในหลวงรัชกาลที่ 9 ไปใช้ต่อจากนี้
คุณมาลา อยู่ดี จิตอาสาที่แจกน้ำ แจกอาหารอยู่บริเวณใต้สะพานพระปิ่นเกล้าฝั่งพระนคร รวมถึงจุดอื่นๆมากว่า 1 ปี ซึ่งหลายคนรู้จักในนาม "ป้าติ๋ม สนามหลวง" ระบุว่า วันนี้จะแจกอาหารและเครื่องดื่มเป็นวันสุดท้าย ส่วนตัวรู้สึกใจหาย เพราะมาอยู่ที่นี่ตั้งแต่ 16 ตุลาคมปีที่แล้ว ก่อนหน้านี้ก็เคยไปสวดมนต์ที่ศิริราช พอในหลวงสวรรคตเลยตั้งใจเอาของมาบริการแขกของพ่อรวมถึงเจ้าหน้าที่ ซึ่งเพื่อนๆ จิตอาสาหาของมาคนละนิดละหน่อยด้วยทุนของตนเอง
"ต่อจากนี้จะอยู่แบบพอเพียง แบ่งปัน อย่างที่พ่อสอนว่ามีอะไรให้แบ่งปันกัน ตลอดเวลาเราก็ทำตามคำสอนท่านมา ช่วยเหลือกัน ดูแลกันมาตลอด ทุกวันนี้ตำรวจ ทหาร พยาบาล ทุกหน่วยงานที่ทำงานมาตลอด 1 ปีเราก็ดูแลเกื้อกูลกันอยู่" เธอระบุ
(คุณมาลา อยู่ดี)
เธอยังเชื่อว่า ถึงในหลวงรัชกาลที่ 9 จะเสด็จสู่สวรรคาลัยแล้ว แต่ความสามัคคี ความรัก เอื้ออาทรกันที่สนามหลวงยังอยู่เต็มร้อยและบอกว่าตลอดเวลาทำให้เราได้เห็นว่าคนไทยที่มีจิตสำนึกดียังมีอยู่จริง
"ถึงแม้พ่อจะไม่อยู่ แต่จิตสำนึกที่พ่อสอนไว้หลายคำสอน เอามาปฏิบัติในแนวทางชีวิตเรา ยังได้อีกเยอะ แล้วสังคมก็จะมีความสุข ขอให้รักและเข้าใจ ดูแลซึ่งกันและกัน อย่ามีความเห็นแก่ตัว อยู่กับพ่อ พ่อให้ทุกอย่าง พ่อทำแบบอย่างให้เราดูตลอดเวลา มีหลายโครงการที่พ่อสอนไว้ เราควรจะยึดถือสิ่งใดสิ่งหนึ่งแล้วแต่คสามถนัดของเรา แล้วชีวิตจะมีความสุข" เธอสรุป
จากสะพานพระปิ่นเกล้า เราเดินขึ้นมาบริเวณถนนราชดำเนินกลางหน้ากองสลากเก่า และพบกับเหล่าจิตอาสาพระราชทาน ซึ่งกำลังแจกน้ำให้ผู้ที่ผ่านไปมาอย่างเป็นมิตร เรามีโอกาสพูดคุยกับหนึ่งในจิตอาสา คือคุณจิรัชยา ไตรงามสม เธอบอกกับเราว่าเธอยินดีทำเพื่อตอบแทนพระองค์ท่าน ด้วยความรู้สึกที่ภูมิใจ
"เมื่อวานก็มีโอกาสได้ไปถวายดอกไม้จันทน์ที่สวนลุมพินี ใช้เวลาราว 5 ชั่วโมง รวมกับช่วงที่ตัดแถวตอนหกโมงครึ่งก็ได้ถวายให้พระองค์ท่าน ตอนที่ยืนอยู่หน้าพระพักตร์ น้ำตาเราก็ไหล ครั้งสุดท้ายที่เราได้ทำให้พ่อ"
(คุณจิรัชยา ไตรงามสม)
เธอยังบอกว่าสิ่งสำคัญคือการสานต่อพระปณิธานนับจากนี้
"ทำแน่นอน บอกลูกว่าเรารักพ่อ เราต้องสานต่อแน่ๆ ถ้าเรารักท่านเราต้องสืบสานต่อปณิธานที่พระองค์ท่านเคยมีให้พวกเรา ไม่อยากให้พูดว่ารักแค่ปาก หรือรักแค่ช่วงนี้ แต่ทำต่อไปจนชีวิตจะหาไม่" เธอกล่าว
แม้ว่านี้อาจเป็นช่วงเวลาสุดท้ายแห่งการรำลึกการเสด็จสู่สวรรคาลัย แต่จากคำสัมภาษณ์ที่ได้ฟังในวันนี้ทำให้เชื่อว่า คำสอนและพระราชปณิธานของพระองค์จะสถิตอยู่ในใจคนไทยตลอดไป
+ อ่านเพิ่มเติม