‘โอ๊ค พานทองแท้’ พร้อมพวก ดอดเข้าพบ 'ดีเอสไอ' รับทราบข้อหาคดีฟอกเงินกรุงไทย
logo ข่าวอัพเดท

‘โอ๊ค พานทองแท้’ พร้อมพวก ดอดเข้าพบ 'ดีเอสไอ' รับทราบข้อหาคดีฟอกเงินกรุงไทย

2,294 ครั้ง
|
18 ต.ค. 2560
เมื่อวันที่ 18 ต.ค. จากกรณีที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) มีหนังสือเมื่อวันที่ 22 ต.ค. 2559 ถึงกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อส่งข้อมูลและแจ้งผลการดำเนินการยึดอายัดทรัพย์สินเกี่ยวกับการกระทำความผิด กรณีผู้บริหารธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) อนุมัติสินเชื่อให้แก่กลุ่มบริษัทกฤาฎามหานคร จำกัด (มหาชน) โดยมิชอบ และขอให้ดีเอสไอตรวจสอบบุคคลที่รับโอนหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินอันเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดในส่วนที่เกี่ยวกับบุคคล 4 คน
 
โดยเงินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดเรื่องนี้มี 10 ล้านบาท และ 26 ล้านบาท ซึ่งดีเอสไอได้รับไว้เป็นคดีพิเศษที่ 25/2560 ต่อมาพนักงานอัยการ และพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้พิจารณาพยานหลักฐานแล้วเห็นชอบร่วมกันว่าคดีมีพยานหลักฐานตามสมควรที่จะแจ้งข้อกล่าวหาบุคคล 4 คน คือ 1.นางเกศินี จิปิภพ 2.นางกาญจนาภา หงษ์เหิน 3.นายวันชัย หงส์เหิน และ 4.นายพานทองแท้ ชินวัตร ลูกชายของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในข้อหาสมคบกันโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป, ร่วมกันฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฟอกเงิน เพราะเหตุที่ได้มีการสมคบแล้ว
 
ซึ่งพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้ออกหมายเรียกให้บุคคลดังกล่าว เข้าพบพนักงานสอบสวนคดีพิเศษเพื่อรับทราบข้อหา ในวันที่ 24 ต.ค.นี้ โดยหลังจากได้รับหมายเรียก ทั้ง 4 คน ได้ติดต่อขอเข้าพบพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาก่อนกำหนด เพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมและพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเองตามขั้นตอนกฎหมาย
 
โดยเมื่อวันที่ 17 ต.ค.ที่ผ่านมา เวลา 14.00 น. บุคคลตามหมายเรียกทั้งหมด ได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ดีเอสไอ โดยพนักงานสอบสวนคดีพิเศษและพนักงานอัยการที่ร่วมสอบสวน ได้ร่วมกันแจ้งข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการกระทำที่กล่าวหาและแจ้งข้อหาบุคคลทั้ง 4 ในข้อหา สมคบกันโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป, ร่วมกันฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิด ฟอกเงิน เพราะเหตุที่ได้มีการสมคบแล้ว ตามมาตรา 5 และมาตรา 9 วรรคหนึ่ง, มาตรา 9 วรรคสอง แห่งพ.ร.บ.ฟอกเงิน พ.ศ. ๒๕๔๒ โดยผู้ต้องหาทุกคนปฎิเสธตลอดข้อกล่าวหา
 
พนักงานสอบสวนคดีพิเศษจึงสอบสวนปากคำไว้ และผู้ต้องหาทั้ง 4 คนประสงค์จะส่งเอกสารเพื่อประกอบการแก้ข้อหาและพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตน ซึ่งจะนำมามอบให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษโดยเร็ว และเนื่องจากบุคคลทั้ง 4 ยังไม่มีหมายจับของศาล เมื่อแจ้งข้อกล่าวหาและดำเนินการตามขั้นตอนเสร็จสิ้น จึงเดินทางกลับ เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น.
 
ขอบคุณข้อมูลจากข่าวสด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง