ตร.รวบ ไอซ์ 508 กก. มูลค่าพันล้าน เตรียมส่งออกผ่านภาคใต้ คาดส่งออกได้จะพุ่งสูงเป็นหมื่นล้านบาท
logo ข่าวอัพเดท

ตร.รวบ ไอซ์ 508 กก. มูลค่าพันล้าน เตรียมส่งออกผ่านภาคใต้ คาดส่งออกได้จะพุ่งสูงเป็นหมื่นล้านบาท

3,961 ครั้ง
|
17 ต.ค. 2560
ตำรวจจับไอซ์ล็อตใหญ่หนัก 508 กิโลกรัม ลักลอบเตรียมนำเข้าพื้นที่ภาคกลาง ก่อนเตรียมรอส่งขายภาคใต้ และส่งออกนอกประเทศ ผบ.ตร. เชื่อมั่นแผนสกัดกั้นยาเสพติดได้ผลดี คาดหากล็อตนี้ส่งออกได้ มูลค่าพุ่งเหยียบหมื่นล้านบาท
 
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โชว์ไอซ์แท่งน้ำหนักรวม 508 กิโลกรัม ที่เป็นของกลางยาเสพติด หลังตำรวจภูธรภาค 3 สนธิกำลังตำรวจทหาร ฝ่ายปกครอง ร่วมกันตรวจยึดได้จากการตรวจค้นรถกระบะต้องสงสัย ที่หลบหนีจากการตรวจค้นด่านตรวจสกัดพื้นที่ สภ.สีดา จังหวัดนครราชสีมา กระทั่งตำรวจได้รับแจ้งจากชาวบ้านพบรถต้องสงสัยคันดังกล่าวจอดทิ้งไว้บริเวณข้างวัดหนองเชียงโข่ ตำบลกุดจอก อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา ก่อนจะขยายผลไปพบนายทินกร ค่อมสิงห์ ที่รับว่าเป็นผู้รับจ้างลำเลียงยาเสพติดล็อตนี้กับเพื่อนอีกคนที่หลบหนีไปได้
 
 
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า ปัจจุบันขบวนการลำเลียงยาเสพติดมีการพยายามเปลี่ยนเส้นทางการลำเลียง จากพื้นที่ภาคเหนือ นำเข้ามาในพื้นที่ภาคอีสานตอนบนและตอนล่าง โดยผ่านประเทศลาว ซึ่งการข่าวยังพบว่าแหล่งผลิตยังคงเป็นกลุ่มผลิตเดิม ที่มีอยู่ 7-8 กลุ่ม เช่นกลุ่มว้าเหนือ ว้าใต้ เป็นต้น แต่มีการเปลี่ยนเส้นทางเพราะเจ้าหน้าที่เข้มงวดสกัดจับกุมในพื้นที่ภาคเหนือ ที่เป็นเส้นทางเดิม ซึ่งมีการสั่งให้แต่ละพื้นที่ปรับแผนในการเฝ้าระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากการปรับแผนสกัดกั้นในแถบภาคเหนือได้ผลเป็นอย่างดีมาโดยตลอด ซึ่งสำหรับยาเสพติดล็อตนี้มีมูลค่าประมาณ 1 พันล้านบาท แต่หากหลุดออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านได้ จะมีมูลค่าสูงถึง หมื่นล้านบาท 
 
ทั้งนี้จากการสอบสวน ทราบว่านายทินกร รับว่า ได้รับค่าจ้างเป็นเงิน 2 แสนบาท ในการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาโดยมีเป้าหมายตั้งใจนำส่งในพื้นที่ภาคกลาง แต่ยังไม่ทราบเป้าหมายว่าให้ไปส่งที่ใด แต่คาดว่าน่าจะเตรียมส่งใต้เพื่อส่งไปขายยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยยาเสพติดล็อตนี้เป็นไปได้ว่าน่าจะมาจากกลุ่มว้าใต้ ขณะที่ฝ่ายสืบสวนอยู่ระหว่างการขยายผลตามจับกุมผู้ต้องหาอีกรายที่ร่วมกับนายทินกรในการลำเลียงยาเสพติด
 
 
ในส่วนของสารตั้งต้นที่ใช้ในการผลิตยาเสพติด ป.ป.ส. เชื่อว่าไทยได้พยายามสกัดกั้นสารตั้งต้นได้ผลดีในระดับหนึ่งแล้ว แต่ก็อาจมีการลักลอบนำเข้าจากประเทศอื่น (ประเทศจีน) ได้อีก ขณะที่ ป.ป.ส. พยายามเฝ้าติดตามการเลือกใช้สารตั้งต้นจากสารเคมีชนิดอื่นของกลุ่มผู้ค้ายาเสพติด เพราะมีการข่าวเชือว่ากลุ่มผู้ผลิตกำลังมีความพยายามจะทดทองหาสารตั้งต้นชนิดใหม่ เพื่อติดตามเฝ้าระวังไม่ให้เกิดการลักลอบนำเข้าต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง