อ.อ๊อด พร้อมกลุ่มผสห. เข้าร้องดีเอสไอ ให้ตรวจสอบสารน้ำมันเคลือบเครื่องยนต์ ว่าเป็นอันตรายต่อผู้ใช้และสิ่งแวดล้อมหรือไม่ พร้อมตรวจสอบการนำเข้าและการครอบครอง
logo ข่าวอัพเดท

อ.อ๊อด พร้อมกลุ่มผสห. เข้าร้องดีเอสไอ ให้ตรวจสอบสารน้ำมันเคลือบเครื่องยนต์ ว่าเป็นอันตรายต่อผู้ใช้และสิ่งแวดล้อมหรือไม่ พร้อมตรวจสอบการนำเข้าและการครอบครอง

2,080 ครั้ง
|
16 ต.ค. 2560
 
อาจารย์อ๊อดและกลุ่มผู้เสียหายจากน้ำมันเคลือบเครื่องยนต์ ร้องดีเอสไอ ให้ตรวจสอบสารที่ใช้ว่าเป็นอันตรายต่อผู้ใช้และสิ่งแวดล้อม หรือไม่ พร้อมให้ตรวจสอบการนำเข้าและครอบครองว่าผิดกฏหมายหรือไม่
 
นายวีรชัย พุทธวงศ์ อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พร้อมด้วยตัวแทนสื่อยานยนต์และผู้เสียหายจากการใช้สารเคลือบเครื่องยนต์ยี่ห้อหนึ่ง เข้ายื่นหนังสือต่อ พ.ต.ต.วรนันท์ ศรีล้ำ ในฐานะรองโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เพื่อขอให้สำนักคดีคุ้มครองผู้บริโภค ตรวจสอบสารเคมีในผลิตภัณฑ์ดังกล่าวว่ามีอันตรายต่อผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อมหรือไม่ รวมถึงขอให้ตรวจสอบเรื่องแหล่งที่มาของสารเคมีดังกล่าวด้วย 
 
นายวีรชัย กล่าวว่า สืบเนื่องจากมีผลการตรวจสอบจากสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. มีการเปิดเผยว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมีการติดสลากอันเป็นเท็จแต่ไม่สามารถพิสูจน์ยืนยันว่า สารประกอบในผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ประกอบด้วยสารใดบ้าง จึงนำเรื่องนี้มาร้องต่อดีเอสไอที่มีกฎหมายคดีพิเศษ เพื่อขอให้พิจารณารับตรวจสอบในเรื่องนี้ เนื่องจากทราบว่าในสารเคลือบดังกล่าวมีการใช้สารเคมีบางประเภท ที่สหภาพยุโรปเคยเตือนไม่ให้ใช้ในผลิตภัณฑ์ยานยนต์ เพราะเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม 
 
ขณะเดียวกันยังขอให้ดีเอสไอขยายผลตรวจสอบถึงแหล่งนำเข้าสารเคมีดังกล่าวด้วย เนื่องจากตั้งข้อสังเกตว่าในไทยสารเคมีดังกล่าวมีใช้ในอุตสาหกรรมผลิตพลาสติก ในโรงงานอุตสาหกรรม จังหวัดระยอง ทำให้สงสัยว่ามีการสั่งนำเข้ามาจากต่างประเทศ ตามที่มีการกล่าวอ้างจริงหรือไม่ 
 
ทั้งนี้ยืนยันว่าการมาร้องต่อดีเอสไอในวันนี้ เป็นการร้องเรียนในภาพรวม เพื่อขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ แต่ส่วนที่สร้างความเสียหายส่วนตัว จะปล่อยให้เป็นหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม ดำเนินการต่อไป 
 
อย่างไรก็ตาม พ.ต.ต.วรนันท์ ระบุว่า จะส่งเรื่องดังกล่าวให้อธิบดีดีเอสไอพิจารณามอบหมายให้หน่วยงานในสังกัดที่เกี่ยวข้องรับไปสืบสวนหาข้อเท็จจริง เนื่องจากคดีนี้ดีเอสไอมีกฎหมายที่เกี่ยวข้องอยู่ จึงสามารถรับไว้ตรวจสอบได้ โดยหลังจากนี้จะมีการประสานกับทางกองบังคับการปราบปราม และสคบ. ในการนำข้อมูลมาประกอบสำนวนการสอบสวน ส่วนต้องมีการเชิญเจ้าของผลิตภัณฑ์มาให้ปากคำหรือไม่ ต้องรอผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเบื้องต้นก่อนมีการพิจารณาในเรื่องนี้อีกครั้ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง