สเปนต้องเผชิญกับวิกฤตการณ์ทางการเมืองครั้งใหญ่ หลังผลประชามติแคว้นกาตาลุญญ่าปรากฏว่า ร้อยละ 90 ต้องการแยกตัวเป็นเอกราช ซึ่งการลงประชามติเมื่อวานนี้เป็นไปอย่างดุเดือด
เกิดบรรยากาศที่ดุเดือดก่อนที่การลงประชามติในแคว้นกาตาลุญญ่าจะเริ่มขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง ทางการสเปนส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าสกัดกั้นการลงประชามติ คูหาที่ใช้ลงคะแนน 400 แห่งจากทั้งหมด 2 พัน 300 แห่งถูกปิด มีการปะทะกันหลายจุดและมีผู้บาดเจ็บถึง 844 คน
อย่างไรก็ตามเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการลงประชามติของชาวกาตาลัน ซึ่งผลที่ออกมาปรากฏว่า ร้อยละ 90 หรือ 2 ล้าน 2 แสน 6 หมื่นคนต้องการให้แคว้นกาตาลุญญ่าแยกตัวจากสเปน ทั้งนี้ตามกฏหมายที่ผ่านโดยสภาคาตาลันระบุว่า หากผลลงประชามติมากกว่าร้อยละ 50 กาตาลุญญ่าสามารถประกาศเอกราชได้ภายใน 48 ชั่วโมง
การลงประชามติครั้งนี้ทำให้สเปนต้องเผชิญกับวิกฤตทางการเมืองครั้งใหญ่ นายกรัฐมนตรีมาเรียโน่ ราฮอย ของสเปนประกาศว่า การลงประชามติครั้งนี้เป็นเรื่องผิดกฏหมายและขัดต่อรัฐธรรมนูญสเปนปี 1978 และว่า กลุ่มแบ่งแยกดินแดนพยายามข่มขู่คนทั้งชาติ อย่างไรก็ตามนายกรัฐมนตรีราฮอยเสนอให้กลุ่มการเมืองทุกฝ่ายมาเจรจาเพื่อหารือกันถึงอนาคตของกาตาลุญญ่า
ขณะที่ประธานาธิบดี การ์ลัส ปุดจ์เดโมนต์ ของกาตาลุญญ่า ออกมาประกาศชัยชนะและย้ำว่า แคว้นกาตาลุญญา มีสิทธิที่จะดำรงเป็นรัฐเอกราช ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของสเปนอีกต่อไป ขณะเดียวกันเรียกร้องให้ผู้นำยุโรปเคารพสิทธิขั้นพื้นฐานของชาวกาตาลัน
สถานการณ์ในกาตาลุญญ่ามีแนวโน้มตึงเครียดมากขึ้นหลังจากที่กลุ่มที่หนุนการแยกตัวและสหภาพการค้าเรียกร้องให้ชาวกาตาลันผละงานประท้วงกรณีที่ตำรวจใช้ความรุนแรงเมื่อวานนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
+ อ่านเพิ่มเติม