ความคืบหน้าคดีรุมโทรมหญิง 15 ปี โดยทางเจ้าหน้าที่นำผู้ต้องหาจำนวน 3 คน เข้าฝากขังที่ศาลจังหวัดพังงา พร้อมขอประกันตัวชั้นศาล ขณะที่ผู้ต้องหา จำนวน 5 คน ที่ฝากขังอยู่ก่อนหน้านี้ และได้ประกันตัวไปแล้ว จำนวน 2 คน อีก 3 คนที่เหลือ ทางทนายความอาสาชุมชน ได้นำหลักทรัพย์เข้าประกันตัวเพิ่มจำนวน 2 คน ส่วนอีก 1 คน หลักทรัพย์ไม่เพียงพอ ทำให้ทางทนายความอาสาชุมชนต้องยื่นเอกสารขอกองทุนยุติธรรม โดยทางกรรมการยุติธรรมจังหวัดต้องพิจารณาความเห็นชอบอีกครั้งหนึ่ง
ขณะที่ทางทนายความอาสาชุมชน ได้ออกมาแจ้งขอให้คู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย ยุติการให้ข่าวเนื่องจากเกรงจะเข้าข่ายหมิ่นประมาทและเป็นคดีความยืดยาว ด้านผู้นำท้องถิ่นเผยหลักทรัพย์ได้จากการช่วยเหลือของคนในชุมชนและคนนอกชุมชนเข้าช่วยเหลือเอื้ออาทรลักษณะหลักทรัพย์สามัคคี
โดยนายสรรเพชร ทิพย์มณเทียร ทนายความอาสาชุมชน กล่าวว่า ทางญาติๆและเพื่อนบ้านในเกาะแรด รวบรวมหลักทรัพย์ได้หลักทรัพย์เพียงพอแค่จำนวนผู้ต้องหาจำนวน 2 คน ส่วนอีกคนทางทนายเตรียมประสานทางกองทุนยุติธรรม ที่มีเป้าหมายช่วยเหลือผู้ที่ต้องคดีอาญาหรือตกเป็นเหยื่อของคดีอาญา และในปัจจุบันทางชาวบ้านได้เกิดความวิตกกังวลในเรื่องที่มีสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่ง ที่นำเสนอข่าวว่าในพื้นที่เกาะแรดเคยมีคดีรุมโทรมเมื่อ 30 ปี ที่ผ่านมา จึงขอแก้ข่าวว่าไม่เป็นความจริงตามที่เสนอข่าวจากโทรทัศน์ช่องดังกล่าวไป ซึ่งได้สอบถามบุคคลในพื้นที่ครบถ้วนแล้วแต่ไม่มีใครทราบแต่อย่างใด โดยผู้ให้ข่าวเป็นทางญาติของคู่กรณีซึ่งไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้อง “โยนไฟ” ให้ชาวบ้านในหมู่บ้าน ยิ่งทำให้หมู่บ้านเกาะแรดถูกมองไม่ดีไปอีก ซึ่งต่อไปต้องให้ชาวบ้านอยู่นิ่งๆไม่จำเป็นต้องให้ข่าวชาวบ้านเพียงต้องการให้ตนเองไม่ให้เป็นคนผิด หมู่บ้านไม่เสื่อมเสีย
ด้านนายยุทธนา จ๋วนเจนกิจ กำนันตำบลหล่อยูง กล่าวว่า เป็นปรากฏการณ์ที่เห็นได้ไม่บ่อยนักกับ การรวบรวมหลักทรัพย์ประกันตัว ในกรณีนี้พบว่า มีการรวบรวมหลักทรัพย์ของคนในหมู่บ้านและนอกหมู่บ้าน เห็นได้ว่าการรวบรวมหลักทรัพย์เป็นธนบัตรแบ็งค์ยี่สิบ มีการประเมินที่ดินของเพื่อนบ้าน คนในหมู่บ้านทั้งที่ผู้ต้องหาไม่ใช่ญาติของตนเองแต่ก็ช่วยกัน ร่วมมือกัน นับว่าเป็นโอกาสดีในการนำความสามัคคีเกิดขึ้นในหมู่บ้าน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
+ อ่านเพิ่มเติม