มีรายงานด่วนว่าผู้ก่อการร้ายก่อเหตุโจมตีโดยการใช้รถตู้ขับพุ่งชนประชาชนเป็นครั้งที่สองในสเปน ทำให้มีผู้บาดเจ็บเป็นประชาชน 6 คนและตำรวจ 1 นาย คราวนี้เหตุเกิดที่เมืองแคมบริลล์ใกล้กรุงบาร์เซโลนา ซึ่งตำรวจวิสามัญฆาตกรรมผู้ก่อการร้ายไป 4 คน ส่วนผู้ก่อเหตุรายที่ 5 บาดเจ็บและเสียชีวิตในเวลาต่อมา มีรายงานว่าผู้ก่อการร้ายที่เตรียมก่อเหตุครั้งที่สองทั้งหมดสวมระเบิดฆ่าตัวตาย
ทางการยังไม่สรุปว่าเหตุครั้งที่สองดังกล่าวเชื่อมโยงกับเหตุโจมตีครั้งแรกในกรุงบาร์เซโลนาที่เกิดขึ้นก่อนไม่ถึงสองวันหรือไม่ แต่กำลังหาความเชื่อมโยงอยู่
ขณะที่เกิดเหตุระเบิดที่บ้านหลังหนึ่งในแคว้นคาตาโลเนีย ซึ่งผู้บัญชาการตำรวจคาตาโลเนียระบุว่าเหตุระเบิดนี้เชื่อมโยงกับการโจมตีครั้งแรกที่กรุุงบาร์เซโลนา แต่ไม่ชัดเจนว่าเชื่อมโยงอย่างไร มีผู้เสียชีวิต 1 รายเป็นชาวสเปน
ส่วนความคืบหน้าเหตุโจมตีครั้งแรกในกรุงบาร์เซโลนา ผู้เสียชีวิตขณะนี้เพิ่มเป็น 13 ราย และผู้บาดเจ็บยอดพุ่งไปกว่า 100 ราย ซึ่งนายกรัฐมนตรีสเปนระบุว่าเป็นการโจมตีของกลุ่มจีฮัด และกลุ่มไอเอสกล่าวว่าเหตุโจมตีที่บาร์เซโลนาเป็นผลงานของนักรบไอเอส
ด้านสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงมาดริด ประเทศสเปนได้โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟสบุ๊กของสถานทูต มีใจความว่า
"ตามที่เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2560 เวลา 17.00 น. ได้เกิดเหตุการณ์รถตู้วิ่งชนสาธารณชนที่ถนน La Rambla ใจกลางนครบาร์เซโลนา มีผู้เสียชีวิต 13 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 50 ราย สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมาดริด ขอให้คนไทยในสเปนหลีกเลี่ยงการเดินทางไปใกล้สถานที่เกิดเหตุ หรือสถานที่ชุมชนต่าง ๆ ทั้งนี้ หากคนไทยต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อหมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉินของสถานเอกอัครราชทูตฯ +34 693 517 201"
สำหรับปฏิกิริยาต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สโมสรบาร์เซโลนา FC ซึ่งเป็นสโมสรฟุตบอลชื่อดังของสเปนทวีตข้อความแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมส่งกำลังใจให้กับเหยื่อ ครอบครัวและประชาชนชาวบาร์เซโลนา
แถลงการณ์จากสมาชิกพระราชวงศ์สเปนระบุว่า "พวกเขา (ผู้ก่อการร้าย) เป็นมือสังหาร และเป็นเพียงอาชญากรทั่วไปที่จะไม่สามารถคุกคามพวกเราได้" ส่วนนายมาเรียโน ราจอย นายกรัฐมนตรีสเปนระบุว่า "ผู้ก่อการร้ายจะไม่สามารถเอาชนะผู้คนที่เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ซึ่งรักเสรีภาพและอยู่ตรงข้ามความป่าเถื่อน"
นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ, นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร, นายเอมมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส, นางแองเกร์ลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ตลอดจนนายซาดิค ข่าน นายกเทศมนตรีกรุงลอนดอน ต่างทวีตข้อความให้กำลังใจชาวบาร์เซโลนา โดยนายทรัมป์ระบุว่า "สหรัฐอเมริกาขอประณามการโจมตีการก่อการร้ายในกรุงบาร์เซโลนาของประเทศสเปน และจะทำทุกทางที่จำเป็นเพื่อให้ความช่วยเหลือ ขอให้อดทนและเข้มแข็ง พวกเรารักคุณ"
นายฌ็อง-คลูเดอ ฌุงแกร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ประณามการโจมตีดังกล่าวว่าเป็นเรื่องที่ขี้ขลาด และกล่าวว่าเราจะไม่หวาดกลัวต่อความป่าเถื่อนเช่นนี้ และสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสมีแถลงการณ์ขอสวดภาวนาให้กับเหยื่อ และแสดงความเสียใจไปยังประชาชนชาวสเปน
ส่วนนายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงระบุให้สถานกงสุลสหรัฐฯ ในสเปนประสานงานกับชาวสหรัฐฯที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์เพื่อช่วยเหลือ และขอความร่วมมือให้ชาวสหรัฐฯ ในบาร์เซโลนาติดต่อบุคคลใกล้ชิดเพื่อยืนยันว่าตนปลอดภัย
หอไอเฟลในประเทศฝรั่งเศสดับไฟชั่วคราว เพื่อเป็นการไว้อาลัยแด่เหยื่อการโจมตีในกรุงบาร์เซโลนา และอาคารวัน เวิลด์ เทรด เซ็นเตอร์ ซึ่งตั้งใกล้เคียงที่ตั้งอาคารเวิลด์ เทรด เซ็นเตอร์เดิม เปิดไปตึกเป็นสีแดงและเหลือง ซึ่งเป็นสีธงชาติสเปน เพื่อแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับชาวสเปน
ด้านเว็บไซต์เฟสบุ๊ก เปิดใช้งานฟังก์ชันตรวจสอบความปลอดภัยของบุคคลที่อยู่ใกล้พื้นที่เกิดเหตุ โดยสามารถยืนยันผ่านแอปพลิเคชั่นเฟสบุ๊กว่าตนเองปลอดภัย รวมถึงตรวจสอบสถานะความปลอดภัยของเพื่อนในเฟสบุ๊กได้ด้วย
[11:20 น.] นางจูลี บิชอป รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศออสเตรเลียระบุว่า มีชาวออสเตรเลียบาดเจ็บจากเหตุการณ์การโจมตีที่บาร์เซโลนา 3 คน หนึ่งในนั้นมีอาการสาหัสแต่อาการยังทรงตัว, สถานกงสุลจีนในกรุงบาร์เซโลนาระบุว่าไม่มีประชาชนจีนเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว แต่มีนักท่องเที่ยวชาวฮ่องกงบาดเจ็บเล็กน้อย 1 คน และรัฐมนตรีต่างประเทศเบลเยียมยืนยัน หนึ่งผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นชาวเบลเยียม