อุทกภัยภาคเหนือ-กลาง-ตะวันออกจากอิทธิพลพายุ 'เซินกา' บ้านเรือน-ถนน-สัตว์เลี้ยงกระทบระนาว
logo ข่าวอัพเดท

อุทกภัยภาคเหนือ-กลาง-ตะวันออกจากอิทธิพลพายุ 'เซินกา' บ้านเรือน-ถนน-สัตว์เลี้ยงกระทบระนาว

ข่าวอัพเดท : ตรวจสอบสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ต่างๆ เริ่มจาก จ.เลย เมื่อเวลาประมาณ 02.00-04.00 น.ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งจากฝ่ายความมั่นคง อำเภอนาแห้ว เลย,แพร่,พิษณุโลก,ลำปาง,เชียงราย,ตราด,พิจิตร

2,264 ครั้ง
|
25 ก.ค. 2560
ตรวจสอบสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ต่างๆ เริ่มจาก จ.เลย เมื่อเวลาประมาณ 02.00-04.00 น.ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งจากฝ่ายความมั่นคง อำเภอนาแห้ว จังหวัดเลย ว่ามีฝนตกติดต่อกันทั้งคืน ทำให้มีน้ำป่าจากอุทยานแห่งชาติภูสนทราย เขตชายแดนไทย-ลาว จาก ต.เหล่ากอหก ต.แสงภา ไหลสู่บ้านเหมืองแพร่ ต.นาแห้ว จนเกิดภาวะน้ำท่วมสูงกว่า 30 เซนติเมตรทันทีในเขตบ้านเหมืองแพร่ ทั้งฝั่งในประเทศไทย และสปป. ลาว
 
ล่าสุด น้ำป่าได้ไหลเอ่อล้นบริเวณจุดผ่อนปรนบ้านเหมืองแพร่ ต.นาแห้ว ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ นางสาวภูมารินทร์ คงเพียรธรรม นายอำเภอนาแห้วได้สั่งการให้ออกพื้นที่เร่งช่วยเหลือ ส่วนชาวบ้านในพื้นที่ก็กำลังขนของหนีน้ำกันอย่างจ้าละหวั่น เพราะน้ำป่าไหลค่อนข้างแรง 
 
ส่วนที่บ้านปากปาน หมู่ 1 และหมู่ 2 ต.ปากปาน อ.เด่นชัย จ.แพร่ น้ำลำห้วยแม่ปานจำนวนมากจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนักตั้งแต่เมื่อเย็นวานนี้ทำให้เกิดน้ำป่าไหลเข้าท่วมในหมู่บ้าน และทำให้สะพานข้ามลำห้วยแม่ปานตลอดจนถนนเชื่อมหัวสะพานขาด ก่อความเสียหายแก่บ้านของชาวบ้านในพื้นที่ ระดับน้ำสูงกว่า 1-1.50 เมตร ชาวบ้านต้องเร่งเก็บสิ่งของหนีน้ำเช่นกัน
 
ด้านสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดพิจิตรยังคงส่งผลกระทบอย่างต่อเนื่อง น้ำจากเทือกเขาเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก ไหลผ่านคลองบ้านมุง เข้าสู่พื้นที่อำเภอสากเหล็ก จังหวัดพิจิตร ซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำ ปริมาณน้ำที่มีจำนวนมากกัดเซาะประตูระบายน้ำ บริเวณหมู่ที่ 2 ตำบลท่าเยี่ยม อำเภอสากเหล็ก และกัดเซาะถนนคันดินบริเวณประตูน้ำจนใกล้ขาดออกจากกัน ประชาชนที่ใช้ถนนคันดินบนประตูน้ำในการสัญจรต้องใช้ความระมัดระวัง
 
นอกจากนี้ประชาชนในพื้นที่ยังระบุว่าประตูน้ำดังกล่าวสร้างขวางทางน้ำ มีขนาดเล็กและต่ำกว่าระดับน้ำ ทำให้เกิดปัญหาน้ำกัดเซาะประตูเป็นประจำทุกปี และยังทำให้น้ำเอ่อข้ามคันคลองเข้าท่วมพื้นที่นาข้าวเป็นจำนวนมากด้วย
 
ขณะที่ผู้สื่อข่าวจังหวัดตราดรายงานว่า เมื่อเวลา 22.40 น. คืนวานนี้ เกิดฝนตกหนักและลมพายุพัดกระหน่ำทั่วพื้นที่จังหวัดตราดเป็นเวลานานเกือบ 1 ชั่วโมง ทำให้เกิดเหตุต้นไม้ล้มระเนระนาดหลายจุด โดยจุดแรกที่หลักกม.ที่ 13 ถนนสายตราด-แหลมงอบ ต.น้ำเชี่ยว อ.แหลมงอบ ต้นไม้ขนาดใหญ่โค่นล้มขวางถนน ทำให้รถยนต์และจักรยานยนต์ที่ขับมาตามถนนหลบไม่ทัน ชนต้นไม้จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย นำส่งรักษาที่ รพ.แหลมงอบ ขณะที่ถนนสายบำโรณ-แสนตุ้ง เกิดเหตุพายุพัดต้นไม้ล้มหลายต้น, ตำบลห้วยแร้งและตำบลเขาสมิง มีต้นไม้ถูกลมพายุพัดโค่นล้มเป็นระยะๆ จำนวนมาก, ตำบลแหลมกลัด บ้านเรือนประชาชนถูกลมพายุพัดหลังคาพังไปหลายหลัง และที่บ้านท่าเรือจ้าง ตำบลวังกระแจะ เกิดเหตุเสาวิทยุรับส่งขนาดสูงของสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดตราด ถูกลมพายุพัดโค่นล้ม ลงมาทับบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ด้านข้างสำนักงานได้รับความเสียหายไป 3 หลังคาเรือน
 
ที่จังหวัดลำปาง นายสมคิด ผานุการณ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลำปาง กล่าวว่า ขณะนี้พบว่าพื้นที่ลำปางในเบื้องต้นมีหมู่บ้านที่เสี่ยงภัยต่อเหตุการณ์น้ำป่าดินโคลนถล่มจากอิทธิพลพายุเซินกาทั้งหมด 13 อำเภอ 87 ตำบล มากถึง 424 หมู่บ้าน แบ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงรุนแรง 284 หมู่บ้าน พื้นที่เสี่ยงปานกลาง 140 หมู่บ้าน ทั้งนี้ได้เตรียมพร้อมรับมือหากเกิดฝนตกหนักในพื้นที่ โดยแจ้งเตือนไปยังฝ่ายปกครองทุกอำเภอและผู้นำท้องถิ่นทุกแห่ง ให้เตรียมพร้อมรับมือปัญหาอุทกภัย นอกจากนี้ ยังได้จัดมิสเตอร์เตือนภัยเข้าไปประจำจุดหมู่บ้านเสี่ยงรุนแรง และสั่งการเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชนให้พร้อมรับมือตลอด 24 ชั่วโมง หากเกิดเหตุให้แจ้งประสานงานกับผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางโดยตรงทันที เพื่อการสั่งการต่างๆ จะได้ทั่วถึงและรวดเร็ว รวมทั้งให้ตรวจเช็กอุปกรณ์ต่างๆ ให้พร้อม โดยเฉพาะอุปกรณ์สื่อสารและสัญญาณเตือนภัยที่เป็นหัวใจหลักในการทำงานหากเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้น 
 
ที่จ.เชียงราย กลุ่มผู้เลี้ยงสัตว์ในหมู่บ้านใหม่นาวา หมู่ 20 ตำบลห้วยสัก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ต้องนำโคและกระบือที่ชาวบ้านเลี้ยงกว่า 200 ตัวมาเลี้ยงรวมกันไว้ที่สวนสาธารณะประจำหมู่บ้านและบางส่วนต้องนำไปเลี้ยงไว้ในบ้าน หลังหลังโคและกระบือทั้งหมดไม่มีที่อยู่อาศัย เนื่องจากฝนที่ตกหนักอย่างต่อเนื่องส่งผลให้ระดับน้ำในหนองน้ำหนองหลวง ซึ่งถูกใช้เป็นปางเลี้ยงสัตว์เพิ่มสูงขึ้นจนท่วมที่อยู่อาศัยทั้งหมด
 
ปิดท้ายที่ จ.พิษณุโลก ซึ่งเกิดฝนตกหนักที่ ต.บ่อภาค อ.ชาติตระการ ทำให้น้ำจากเทือกเขาไหลลงสู่ลำน้ำภาค น้ำมีความไหลเชี่ยวและเพิ่มระดับขึ้นอย่างรวดเร็ว และอาจจะส่งผลกระทบกับพื้นที่ราบลุ่มที่ติดกับลำน้ำภาคได้ 
 
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง