โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ยืนยันปฏิบัติต่อเณรคำตามหลักสากล โดยคำนึงถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และสิทธิมนุษยชน คาดเดินทางถึงสนามบินนาริตะ ช่วงบ่ายวันนี้ ก่อนบินกลับไทย
เรือโทสมนึก เสียงก้อง โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด พร้อมด้วยนายอำนาจ โชติชัย อธิบดีอัยการสำนักงานต่างประเทศ เปิดเผยถึงกรณีสหรัฐอเมริกาส่งตัวนายวิรพล สุขผล หรือเณรคำ กลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย หลังศาลสหรัฐอเมริกามีคำสั่งให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดน ตามที่อัยการสูงสุดร้องขอ โดยสำนักงานอัยการสูงสุด ในฐานผู้ประสานงานกลางของประเทศไทย ได้ร้องขอตัวนายวิรพล หรือเณรคำ มาดำเนินคดีในความผิดตามหมายจับศาลอาญาที่ 1245 /2556 ลงวันที่ 17 กรกฎาคม 2556 และหมายจับคดีอาญาที่ 1013/2557 ลงวันที่ 12 มิถุนายน 2557 ตามพรบ.ส่งผู้ร้ายข้ามแดน พศ. 2551 และสนธิสัญญาระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย และรัฐบาลแห่งสหรัฐอเมริกาว่าด้วยการส่งผู้ร้ายข้ามแดน
ภายหลังจากที่ เจ้าหน้าที่ของสหรัฐอเมริกา ได้จับกุมตัวนายวิรพล หรือเณรคำ ได้เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2559 และศาลชั้นต้นรัฐบาลกลางแห่งแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ได้มีคำสั่งให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดน นำตัวนายวิรพล กลับมาดำเนินยังประเทศไทยเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2560 โดยที่นายวิรพล หรือเณรคำ ไม่ได้อุทธรณ์คำสั่งศาล จนสิ้นสุดระยะเวลาอุทธรณ์ จึงถูกส่งตัวกลับมายังประเทศไทย
โดยสำนักงานอัยการสูงสุด ได้มอบหมายให้ นางอินทรานี สุมาวงศ์ รองอธิบดีอัยการสำนักงานต่างประเทศ พร้อมด้วยอัยการประจำสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานต่างประเทศ และเจ้าหน้าที่จากกรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยมี พ.ต.ท ถิรพล พิณเมืองงาม ผู้บัญชาการสำนักคดีความมั่นคง พันตำรวจโทไพสิฐ สังคพงศ์ ผู้บัญชาการสำนักกิจการต่างประเทศ และคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ ร่วม คณะเดินทางไปรับตัว โดยออกเดินทางจากสหรัฐอเมริกาเมื่อเวลา ตี 3 และจะเดินทางถึงสนามบินนาริตะ เพื่อต่อเครื่องในเวลา 14.00 น. และจะเดินทางมาถึงประเทศไทยที่สนามบินสุวรรณภูมิในเวลา 22.00 น.
ในขณะเดียวกันได้รับการร้องขอจากหน่วยงานบังคับใช้กฏหมาย และผู้ที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ของสหรัฐอเมริกาที่มีส่วนร่วมในการดำเนินการส่งผู้ร้ายข้ามแดน ให้ปฏิบัติต่อนายวิรพล หรือเณรคำ ตามหลักสากล โดยคำนึงถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และสิทธิมนุษยชน ซึ่งสำนักงานอัยการสูงสุด ยืนยันจะปฏิบัติตามที่ร้องขอ พร้อมทั้งฝากถึงการนำเสนอภาพข่าวของสื่อมวลชนให้ระมัดระวัง เนื่องจากเป็นการละเมิดสิทธิ และกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทย
สำหรับการดำเนินคดีกับนายวิรพลหรือเณรคำ ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษได้ดำเนินคดีกับนายวิรพล ผู้ต้องหาถึง 2 คดีคือ 1.ตามคดีพิเศษที่ 186/2556 ความผิดฐานปราศจากเหตุอันควร พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดา-มารดา ไปจากผู้ปกครองหรือผู้ดูแล เพื่อการอนาจาร กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ซึ่งไม่ใช่ภรรยาของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม กระทำอนาจารแก่เด็กอายุไม่เกิน 15 ปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม และพาเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี เพื่อการอนาจาร แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม 2.ตามคดีพิเศษที่ 151/2556 ตามความผิดฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย แก่ผู้อื่นหรือประชาชน นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศ และเผยแพร่หรือส่งต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์ โดยรู้ว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ ความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ความผิดฐานโอนหรือรับโอน หรือเปลี่ยนสภาพทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดมูลฐาน เกี่ยวกับฉ้อโกงประชาชนเพื่อซุกซ่อนหรือปกปิดแหล่งที่มาของทรัพย์สิน หรือกระทำด้วยการใดๆ เพื่อปกปิดหรืออำพรางลักษณะที่แท้จริง การได้มาแหล่งที่ตั้งการจำหน่าย การโอน การได้สิทธิ ซึ่งทรัพย์สินเกี่ยวกับการกระทำความผิด เกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน
ทางด้าน ดีเอสไอเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ และ สถานที่ รับตัวเณรคำสอบปากคำ โดยบรรยากาศการเตรียมความพร้อมรับตัว นายวิรพล สุขผล หรือ เณรคำ และได้นำแผงเหล็กมากั้นเป็นแนวทางเดินเข้า-ออก เพื่อความสะดวกในการรักษาความปลอดภัย ซึ่งทางดีเอสไอเตรียมกำลังจากสำนักปฏิบัติการพิเศษ ของดีเอสไอจำนวนหนึ่งคอยดูแลความปลอดภัย และ ความสงบเรียบร้อย
ส่วนห้องควบคุมตัวใช้ห้องขังส่วนตัวทั่วไปไม่มีอะไรพิเศษ นอกจากกำลังเจ้าหน้าที่ที่จะต้องดูแลอย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตามพรุ่งนี้ช่วงเย็นๆทางดีเอสไอ จะทำความเข้าใจกับสื่อ ในการถ่ายภาพ ที่จะมีการกำหนดพื้นที่สื่ออย่างชัดเจน และอาจจะนำสื่อมวลชนตรวจความพร้อมไปกับเจ้าหน้าที่ดีเอสไอด้วย
+ อ่านเพิ่มเติม